กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--Triple J Communication
ก.พลังงาน เดินหน้าสร้างความมั่นใจรองรับวิกฤตเหตุพม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติ นำสื่อมวลชน ร่วมยืนยันความพร้อมกลุ่มโรงไฟฟ้าราชบุรี ผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอความต้องการ หลังการปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็นน้ำมันเตา และน้ำมันดีเซลบางส่วนทำได้สมบูรณ์แบบ มั่นใจตลอดช่วงซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซพม่าถึงปลายเดือนเมย. การผลิตไฟฟ้ามีความมั่นคงต่อเนื่อง
วันนี้ (18 เม.ย.) นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชน ได้เข้าเยี่ยมชมกลุ่มโรงไฟฟ้าราชบุรี ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนราชบุรี โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรี โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ และโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ เพื่อติดตามความพร้อมของกลุ่มโรงไฟฟ้าดังกล่าว ในการจัดการและรองรับกรณีวิกฤติการขาดแคลนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติจากแหล่งก๊าซธรรมชาติในประเทศพม่าหยุดการผลิตเพื่อซ่อมบำรุง (แหล่งยาดานา-เยตากุน ระหว่างช่วงวันที่ 10 – 19 เม.ย. และแหล่งซอติก้า ระหว่างช่วงวันที่ 20 – 27 เม.ย. 2558)
นายทวารัฐ กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน กระทรวงพลังงานจึงได้นำสื่อมวลชนมาตรวจสอบความพร้อมในการบริหารจัดการของกลุ่มโรงไฟฟ้าราชบุรี ซึ่งถือเป็นกลุ่มโรงไฟฟ้าหลักที่ได้รับผลกระทบจากกรณีประเทศพม่าซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติดังกล่าว หลังจากการติดตามและเยี่ยมชมระบบการทำงานต่างๆ ของโรงไฟฟ้าในวันนี้ กระทรวงพลังงานยืนยันได้ว่า ในช่วงเวลาที่มีการซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ จนถึงปลายเดือนเมษายนนี้ คาดว่าจะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตไฟฟ้าตก – ดับ ภายในประเทศได้ต่อไป
ทั้งนี้ รายละเอียดการเตรียมความพร้อมของกลุ่มโรงไฟฟ้าราชบุรี ในช่วงการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติครั้งนี้ ได้เตรียมสำรองน้ำมันเตาสำหรับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี จำนวน 79.83 ล้านลิตร ซึ่งสามารถเดินเครื่องติดต่อกันได้ 10 วัน และน้ำมันดีเซลสำหรับโรงไฟฟ้าความร้อนร่วมราชบุรี โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ และโรงไฟฟ้าไตรเอนเอนจี้ จำนวน 59.4 ล้านลิตร ซึ่งสามารถใช้เดินเครื่องได้ 3 วันติดต่อกัน รวมทั้งได้ทดสอบการเดินเครื่องด้วยน้ำมันเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพและความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้า
นอกจากนี้ ทางกลุ่มโรงไฟฟ้าราชบุรี ได้ประสานความร่วมมือกับศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าแห่งชาติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางในการสั่งการผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าทั้งประเทศ ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการรักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศไทย ซึ่งจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมา มีการใช้ไฟฟ้าในปริมาณที่ไม่สูงมากนัก ทำให้การผลิตไฟฟ้าจากกลุ่มโรงไฟฟ้าราชบุรีด้วยเชื้อเพลิงจากน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลเพียงพอ
สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าราชบุรี ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนราชบุรี กำลังผลิต 1,470 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรี กำลังผลิต 2,175 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ กำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ กำลังผลิต 1,400 เมกะวัตต์ โดยกลุ่มโรงไฟฟ้าราชบุรีทั้งหมดดังกล่าวใช้เชื้อเพลิงหลักจากก๊าซธรรมชาติ และเชื้อเพลิงสำรองจากน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล