กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--ทีคิวพีอาร์
ตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ซึ่งเป็นตระกูลเครื่องบินรุ่นลำตัวกว้างที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากของบริษัทแอร์บัส ได้เดินทางผ่านเหตุการณ์ครั้งสำคัญ ด้วยการยืนยันการสั่งซื้อเครื่องบินกว่า 1,500 ลำ จากลูกค้ากว่า 100 ราย โดยยอดขายในปัจจุบันทั้งหมดนี้ (1,501 ลำ) ยังรวมถึงการสั่งซื้อเครื่องบินบรรทุกสินค้าแอร์บัส เอ330-200 จำนวน 4 ลำ เมื่อเร็วๆนี้ ของสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ และการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ330-900นีโอ จำนวน 25 ลำ ของบริษัท แอร์ ลีส คอร์ปอเรชั่น อีกด้วย
“เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่เรามีโอกาสได้เห็นการสนับสนุนที่มีอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งของตระกูลเครื่องบินที่มีความสามารถรอบด้านอย่างตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการอย่างต่อเนื่องของตลาดที่มีต่อการผสมผสานของคุณสมบัติที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งของเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ได้แก่ เศรษฐศาสตร์การบินที่ไม่มีใครเทียบได้ ความสบายที่ดีที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวกัน และความน่าเชื่อถือทางด้านการบินในระดับสูง สำหรับสมาชิกทุกรุ่นของตระกูลผลิตภัณฑ์เครื่องบินของเราแล้ว เรายังคงพัฒนาเครื่องบินแอร์บัส เอ330 อย่างต่อเนื่อง ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมใหม่เพิ่มเติมอยู่เสมอ เช่น การนำเทคโนโลยีล่าสุดบางประเภทที่ได้รับการพัฒนาสำหรับเครื่องบินแอร์บัส เอ380 และเครื่องบินแอร์บัส เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี มาปรับใช้กับตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ330” มร.จอห์น ลีฮีห์ ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าสัมพันธ์ของแอร์บัส กล่าว “ความนิยมและความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ330 คือ ลูกค้า 10 อันดับต้นของเราได้กลับมาสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นดังกล่าวซ้ำโดยเฉลี่ยกว่า 8 ครั้ง”
เครื่องบินแอร์บัส เอ330 คือหนึ่งในเครื่องบินที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในโลก ด้วยเศรษฐศาสตร์การปฏิบัติการบินที่ดีที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มีเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ออกเดินทางหรือลงจอดที่สนามบินแห่งใดแห่งหนึ่งในโลกนี้ในทุก 20 วินาที โดยเครื่องบินจากตระกูลแอร์บัส เอ330 จำนวนกว่า 1,100 ลำ ยังได้ถูกปฏิบัติการบินโดยสายการบินต่างๆในสนามบินกว่า 400 แห่งทั่วโลกอีกด้วย
จากความสำเร็จครั้งนี้ ทำให้ตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ได้รับการขยายให้ครอบคลุมสมาชิกเครื่องบินบรรทุกสินค้า เครื่องบินวีไอพี และเครื่องบินที่มีตัวแปรสำหรับการขนส่งของกองทัพทหาร โดยการพัฒนาเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องและหลากหลาย ซึ่งจะเริ่มให้บริการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โดยจะช่วยรับประกันว่าเครื่องบินจากตระกูลแอร์บัส เอ330 ยังคงเป็นเครื่องบินรุ่นลำตัวกว้างที่มีประสิทธิภาพที่สุดและมีความคุ้มค่าทางด้านต้นทุนที่สุด โดยการพัฒนาดังกล่าวยังรวมถึงการพัฒนาตัวแปรน้ำหนักขณะวิ่งขึ้นที่สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า 242 ตัน (สำหรับเครื่องบินแอร์บัส เอ330-200 และเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300) การพัฒนาเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ที่ถูกปรับให้เหมาะสมกับการปฏิบัติการบินสำหรับเส้นทางในประเทศและเส้นทางระดับภูมิภาค และการพัฒนาเครื่องบินแอร์บัส เอ330 นีโอ ในอนาคตข้างหน้า เครื่องบินแอร์บัส เอ330 จะถูกนำมาปฏิบัติการบินร่วมกับเครื่องบินแอร์บัส เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี เนื่องจากลูกค้าที่ทำการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี ในอัตราร้อยละ 85 ยังเป็นลูกค้าหรือผู้ปฏิบัติการเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ด้วยเช่นกัน
ในปัจจุบัน เครื่องบินแอร์บัส เอ330-800นีโอ และเครื่องบินแอร์บัส เอ330-900นีโอ ซึ่งได้รับการเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2557 โดยเป็นการสานต่อความสำเร็จของตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ซึ่งเป็นตระกูลเครื่องบินยอดนิยมที่มีเศรษฐศาสตร์การบินที่ผ่านการพิสูจน์ มีความสามารถอย่างรอบด้าน และมีความน่าเชื่อถือทางด้านการบินในระดับสูง จะสามารถลดการเผาผลาญพลังงานได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับอัตราการเผาผลาญของเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้เครื่องบินตระกูลดังกล่าวกลายเป็นเครื่องบินรุ่นลำตัวกว้างสำหรับพิสัยการบินระดับกลางที่มีความคุ้มค่าทางด้านต้นทุนมากที่สุดในตลาดในอนาคต โดยในปัจจุบันนี้ บริษัทแอร์บัสได้รับการยืนยันการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ330-800นีโอ และเครื่องบินแอร์บัส เอ330-900นีโอ จำนวนทั้งหมด 145 ลำ จากลูกค้าทั้งหมด 7 ราย
เครื่องบินแอร์บัส เอ330 เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเครื่องบินรุ่นลำตัวกว้างที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากของบริษัทแอร์บัส ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ330 เครื่องบินแอร์บัส เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี และเครื่องบินแอร์บัส เอ380 โดยสามารถจุที่นั่งของผู้โดยสารได้ในจำนวนที่ไม่เหมือนใคร ด้วยจำนวนที่นั่งผู้โดยสารระหว่าง 250 ถึงกว่า 500 ที่นั่ง