กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--IR network
ผู้ถือหุ้น บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) อนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.18 บาท/หุ้น รวมเป็นเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานปี”57 เป็นเงิน 0.32 บาท/หุ้น หรือเพิ่มขึ้นกว่า 89.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านผู้บริหาร “ยุทธ ชินสุภัคกุล”มั่นใจรายได้รวมปี”58 ขยายตัว 15% กำไรพุ่ง 25% เดินหน้าหาโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศให้ครบ 100 เมกะวัตต์ ก่อนดัน “บ่อพลอย โซลาร์”เข้าจดทะเบียนตลาดหุ้น ในช่วงปลายปี
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงาน (ปี 2557 เพิ่ม) เป็นเงินสดในอัตรา 0.18 บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 29 เม.ย. วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 30 เม.ย. และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 27 เม.ย. และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 13 พ.ค.2558
ทั้งนี้ รวมเป็นเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานปี 2557 ในอัตรา 0.32 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 0.151 บาท/หุ้น หรือเพิ่มขึ้น 89.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทได้จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.14 บาท/หุ้น เมื่อ 10 กันยายน 2557
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 นายยุทธ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมขยายตัว 15% กำไรสุทธิเติบโต 25% จากปี 2557 โดยในปีนี้ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มเป็น 50% จากเดิม 37.5% เนื่องจากเริ่มมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น
“ในปีนี้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการแรกในประเทศญี่ปุ่นจะเปิดจ่ายไฟฟ้าได้ 8-12 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มทยอยเปิดเดินเครื่องตั้งแต่ต้นไตรมาส 3 ของปีนี้ และจะรับรู้รายได้เข้ามาทันที ทำให้ปีนี้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่รับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยประมาณ 16 เมกะวัตต์ ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 30 เมกะวัตต์ภายในปีนี้ และในปี 2559 จะเพิ่มเป็น 50-60 เมกะวัตต์”นายยุทธกล่าว
นายยุทธ กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศที่กำหนดจะทยอยสร้างโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น 6 โครงการ และยังคงมองหาลู่ทางการลงทุนเพิ่มเติม ในลักษณะของการร่วมทุน ภายในเงื่อนไข EPCO ต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาทในปีนี้ สำหรับเดินหน้าโรงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เงินจากทุนของบริษัท 25% เงินกู้สถาบันการเงิน 75%
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนโซลาร์ รูฟ ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมในการเช่าหลังคา และโกดัง เตรียมพร้อมรองรับไว้แล้ว เนื่องจากให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ
สำหรับธุรกิจโรงพิมพ์ยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะยังสามารถมี EBITDA ปีละกว่า 150 ล้านบาท โดยล่าสุด EPCO จะได้รับงานพิมพ์เพิ่มเข้ามาอีก เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจของบริษัทขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาสที่ 2
ส่วนความคืบหน้าการนำบริษัท บ่อพลอย โซล่าร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ EPCO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นายยุทธ กล่าวว่า ของบริษัทได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงปลายปีนี้ โดยบ่อพลอย โซล่าร์ อยู่ระหว่างรอปิดงบการเงินในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ และเตรียมลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้มีกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ