กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--IR network
ผถห. SENA ไฟเขียวปันผลเป็นหุ้น-เงินสด เตรียมรับทรัพย์ 22 พ.ค.นี้ ปี”58 ตั้งเป้ากวาดรายได้ 3 พันลบ. ยอดขายกว่า 4.5 พันลบ. ขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจ Recurring Income-โซลาร์รูฟท็อป
ผู้ถือหุ้น บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) อนุมัติปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 7 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ และปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.01587301588 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ด้านผู้บริหาร “ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์”เปิดเกมรุกบุกตลาดอสังหาฯ ในปี”58 เปิด 11 โครงการใหม่ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งเป้ารายได้ 3 พันล้านบาท ยอดขาย 4.5 พันล้านบาท พร้อมขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจ Recurring Income และทำโซลาร์รูฟท็อปในโครงการ หวังเพิ่มฐานที่มาของรายได้ให้กับธุรกิจของบริษัทเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 มีมติจ่ายปันผลเป็นหุ้นและเงินสด สำหรับงวดผลการดำเนินงานในวันที 1ก.ค.-31 ธ.ค.2557 โดยจ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 7 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.01587301588บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์รับเงินปันผลในวันที่ 6 พ.ค. ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 7 พ.ค. และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พ.ค. 2558
สำหรับแผนการดำเนินในปี 2558 ผศ.ดร.เกษรา กล่าวว่า บริษัทเตรียมเปิด 11 โครงการใหม่ มูลค่า 10,000ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เตรียมขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มที่มีระดับรายได้ประมาณ 100,000 บาท (กลุ่มลูกค้าB+) และพัฒนาโครงการในเขตกรุงเทพฯฝั่งตะวันตกมากขึ้น อีกทั้งยังขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจ Recurring Incomeและทำโซลาร์รูฟท็อปในโครงการ เพื่อเพิ่มฐานที่มาของรายได้ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
นอกจากนี้ ยังเตรียมงบประมาณไว้สำหรับการจัดซื้อที่ดินจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อที่ดินใหม่ ขณะที่Backlog ของบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 2559
“บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2558 ประมาณ 3,000 ล้านบาท และคาดว่ายอดขายจะอยู่ที่ 4,500 บาท”ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
ผศ.ดร.เกษรา กล่าวว่า การดำเนินงานในปี 2558 บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์ "ไฟนีออน" ส่องสว่างชัดเจน “เปิด-ปิด” ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที โดยบริษัทจะเน้นไปที่ความชัดเจนทั้งในเรื่องของ Branding และ Segmentation รวมไปถึงบริการหลังการขาย 360 องศา
ส่วนแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง เชื่อว่าจะส่งผลดีกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และช่วยกระ ตุ้นกำลังซื้อ ทำให้คนที่คิดจะกู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย หรือซื้อบ้านเพื่อลงทุนตัดสินใจได้ ง่ายขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวอีกว่า ปัจจัยเสี่ยงที่น่าเป็นห่วงสำหรับธุรกิจอสังหาฯ ในปีนี้จะเป็นเรื่องของหนี้สินครัวเรือนที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้น้อย ถึงรายได้ปานกลาง เป็นผลให้เกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้ง ราคาที่ดินที่ปรับตัวสูง และความไม่แน่นอนด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่ส่งผลกระทบในเชิงลบกับธุรกิจอสังหาฯ