กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์
APCO ประกาศความสำเร็จของการทดสอบประสิทธิภาพ สารสกัดธรรมชาติต้านโรคเอดส์ ทางรอดใหม่ของผู้ป่วย HIV
บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO แถลงว่าได้ ร่วมกับศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดธรรมชาติต้านโรคเอดส์ อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 ปี ผลปรากฏว่า สารสกัดธรรมชาติดังกล่าวมีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมเชื้อ HIV สร้างมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพ และเป็นทางรอดใหม่สำหรับผู้ติดเชื้อ HIV ซึ่งมีมากกว่า 40 ล้านคนทั่วโลก โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว คือ ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย Operation BIIM บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) รศ.ดร.อำไพ ปั้นทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชวิทยาของ UNESCO และ ดร.กรรณิกา เรือนจันทร์ หัวหน้างานวิจัยและนวัตกรรมวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย Operation BIIM บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO กล่าวว่า จากความพยายามกว่า 37 ปีในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาสารสกัดธรรมชาติจากพืชไทย 5 ชนิด ได้แก่ มังคุด ฝรั่ง งาดำ ถั่วเหลือง และใบบัวบก ซึ่งมีคุณสมบัติในการปรับภูมิคุ้มกันร่างกายให้เกิดความสมดุล ล่าสุด คณะนักวิทยาศาสตร์ Operation BIM บริษัท เอเชียนไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้นำผลวิจัยดังกล่าวมาต่อยอดจนประสบความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรม LIV (LIVe Happily with HIV) ครั้งแรกของโลกกับสารต้านโรคเอดส์ที่สกัดจากพืชธรรมชาติโดยฝีมือคนไทย โดยผลจากการวิจัยทดสอบประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 3 ปี พบว่าสารดังกล่าวช่วยให้ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและปราศจากผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ทั้งนี้ สารดังกล่าวมีคุณสมบัติเด่นในการต้านโรคเอดส์โดยสรุป ดังต่อไปนี้
- LIV เพิ่ม CD4 หรือเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- LIV ลดเชื้อไวรัส HIV ด้วยการเพิ่ม Th17 ที่ทำหน้าที่เป็นวัคซีนควบคุมการแพร่ของเชื้อ HIV
- LIV ลดผลข้างเคียง จากการใช้ยาต้านไวรัส
- LIV ป้องกันและยับยั้ง การติดเชื้อฉวยโอกาส
- LIV ไม่มีผลต่อ เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง ตลอดจนการทำงานของตับไต
ทั้งนี้ เมื่อไวรัส HIV เข้าสู่ร่างกายแล้วจะฝังตัวเข้าไปในเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 (Th1+Th2+Th17+Treg) ที่มีหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกัน แล้วจะค่อยๆ ทำลายเม็ดเลือดขาวนั้นก่อนที่จะแพร่ออกไปยัง CD4 เซลล์ใหม่ เป็นสาเหตุให้ภูมิคุ้มกันร่างกายของผู้ป่วยลดต่ำลงกว่า 350 เซลล์/ลบ.มม. (คนปกติมีค่า CD4 600-1,000 เซลล์ต่อเลือด 1 ลบ.มม.) ด้วยเหตุที่ HIV ซ่อนตัวอยู่ในเม็ดเลือดขาวนี้เองทำให้การฆ่าเชื้อ HIV ทำได้ยาก ผู้ติดเชื้อจึงมีโอกาสหายน้อยมาก CD4 ที่เชื้อ HIV ทำลายมากที่สุดคือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Th17 ซึ่งมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายลดต่ำลง ผู้ติดเชื้อ HIV จะไม่เสียชีวิตจากเชื้อ HIV โดยตรง แต่จะเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส ฯลฯ
การรักษาอาการของผู้ติดเชื้อ HIV คือ ต้องกำจัดเชื้อไวรัส HIV ให้หมดสิ้น และเพิ่ม CD4 ให้มีระดับปกติโดยเฉพาะการเพิ่มเม็ดเลือดขาวชนิด Th17 ซึ่งปัจจุบันยาต้านไวรัสสามารถลดปริมาณไวรัส HIV ในผู้ติดเชื้อลงได้ก็จริง แต่อาจมีผลข้างเคียง และไม่สามารถเพิ่ม CD4 ได้รวดเร็ว
คณะนักวิจัย Operation BIIM ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของสารต้านโรคเอดส์ชนิดใหม่ที่ค้นพบนี้อย่างต่อเนื่องกับอาสาสมัครหลายกลุ่มเป็นระยะเวลา 3 ปี อาทิ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ ม.เชียงใหม่ พบว่า LIV 4 เม็ดต่อวันสามารถกระตุ้น CD4 ในอาสาสมัครได้ใน 15 วัน โดยกระตุ้น TH17 เพิ่ม 5 เท่า และกระตุ้นทั้ง Th1 และ Th9 เพิ่ม 2 เท่า ระบบภูมิต้านทานจึงเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพในการจัดการเชื้อ HIV ก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วย นอกจากนี้งานวิจัยก่อนหน้านี้ยังระบุด้วยว่าองค์ประกอบของ LIV ที่คณะนักวิจัยสกัดจากมังคุด สามารถระงับเอนไซม์ reverse transcriptase และ เอนไซม์ protease ที่ไวรัสใช้ในการเพิ่มจำนวนได้อีกด้วย
นอกจากนี้ในโครงการวิจัย “การศึกษาผลของผลิตภัณฑ์ Operation BIM ต่อการกระตุ้นการเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 Lymphocytes ในผู้ติดเชื้อ HIV” เพื่อทดสอบประสิทธิภาพ LIV นำโดยศ.ดร.วัชระ กสิณฤกษ์ APCO Chair Professor และนพ.นพพร พรพัฒนพรพันธุ์ ผอ.รพ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ยังพบว่าในระยะยาวนั้นผู้ติดเชื้อ HIV มี CD4 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากกิน LIV 4 แคปซูล/วัน ติดต่อกัน 6-9 เดือน
APCO ยังได้ดำเนินโครงการทดสอบประสิทธิภาพคู่ขนานโดยมอบผลิตภัณฑ์ LIV แก่ผู้ติดเชื้อ HIV ที่ อ.สารภี และอ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้รับยาต้านไวรัสอยู่แล้วเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ผลปรากฏว่าผู้ติดเชื้อมีผลข้างเคียงจากการใช้ยาต้านไวรัสลดลงทุกราย ช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นเหมือนคนปกติทั่วไป
ในส่วนโครงการช่วยเหลือเด็กติดเชื้อที่บ้านแกร์ด้า จ.ลพบุรี APCO ได้ให้ LIV แก่เด็กผู้ติดเชื้อ HIV ที่ได้รับยาต้านไวรัสแต่เกิดมีโรคแทรกซ้อน เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย และมะเร็ง หลังจากทาน LIV 4 แคปซูล/วัน ติดต่อกันนาน 12 เดือน พบว่าอาการโรคแทรกซ้อนหายไปหรือทุเลาลง โดยทุกคนมี CD4 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 67.34% ในกลุ่มเด็กติดเชื้อ HIV ที่ได้ยาต้านไวรัสแล้ว แต่ CD4 ไม่เพิ่มเลยเป็นเวลา 6 เดือน มี CD4 เพิ่มขึ้นหลังจากผู้ติดเชื้อรับประทาน LIV 9 แคปซูล/วัน ติดต่อกัน 3 เดือน ทุกคนมี CD4 โดยเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 32.45% จึงทำให้สรุปได้ว่า CD4 ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากการใช้ LIV
ล่าสุดผลจากกรณีศึกษาระยะเวลา 1 ปีของอาสาสมัครผู้ติดเชื้อ HIV ที่ปฏิเสธการใช้ยาต้านไวรัสเนื่องจากกลัวผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น พบว่าก่อนใช้ LIV มีอาการปวดศีรษะบ่อยๆ นอนไม่ค่อยหลับและมีอาการผื่นคันตามผิวหนังอยู่เสมอ โดยมีค่า CD4 อยู่ที่ 18.70% จำนวน Viral Load 6,985 – 34,462 copies/mm3 แต่หลังจากใช้LIV 9 แคปซูล ต่อ วัน ครบ 1 ปี พบว่ามีร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก ทานอาหารได้มากขึ้น ไม่มีอาการผื่นคัน นอนหลับสนิท ไม่มีอาการปวดศีรษะ มีค่า %CD4 = 25% และจำนวน Virus ลดลงจนถึงระดับที่ไม่สามารถวัดได้ ซึ่งน้อยกว่า 40 copies/mm3 (คนปกติมีระดับ CD4 ที่ 26-40% และจำนวน Viral Load 0)
จากผลการทดสอบตลอดระยะเวลา 3 ปีได้พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของสารสกัดจากธรรมชาตินวัตกรรม “LIV” (LIVe Happily with HIV) โดยฝีมือคนไทย นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ และเป็นการเปิดมิติใหม่ในการดูแลสุขภาพเพื่อผู้ติดเชื้อ HIV อย่างแท้จริง ด้วยวิธีสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้เกิดความสมดุลอีกครั้ง ซึ่งไม่เพียงมีความปลอดภัยสูง แต่ยังช่วยลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาต้านไวรัส HIV ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการเนรมิตชีวิตใหม่ให้ผู้ติดเชื้อได้มีสุขภาพที่ดีและมีความสุขกับชีวิตในแต่ละวันได้มากขึ้น
บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด
สิทธิ วัฒนายากร โทรศัพท์ 0-2610-2384