กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันที่ ๒๓ เม.ย. ๕๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) จัดแถลงผลการดำเนินงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในรอบ ๖ เดือน (๑๒ กันยายน ๒๕๕๗ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘)โดยมี พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการแถลง พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมแถลง ณ ห้องประชุมชั้น ๒ อาคารใหม่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สะพานขาว กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ตนได้นำนโยบายของรัฐบาลว่าด้วยการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ มาวางกรอบเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกำหนดเป็นนโยบายของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ๗ เร่งด่วน ๔ พัฒนา ๙ กลุ่มเป้าหมาย และมีแผนปฏิบัติราชการ(Action Plan) ของกระทรวงฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยในรอบ ๖ เดือน (๑๒ กันยายน ๒๕๕๗ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘) กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีผลการดำเนินงานของกระทรวงฯ ที่สำคัญๆ ดังนี้
๑)การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
๑.๑) การจัดทำรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย (TIP Report)
๑.๒) การช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยที่ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
๑.๓) การแก้ไขปัญหาการขอทานทั่วประเทศ
๒)การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต
๓)การเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ
๔)การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
๕)การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มชาติพันธุ์
๖)การพัฒนาที่อยู่อาศัยของชุมชนแออัดและผู้มีรายได้น้อย
๗)การเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
๘)การปรับโครงสร้างองค์กร
๙)การพัฒนาบุคลากร
๑๐)การพัฒนากฎหมายทางด้านสังคม
๑๑)ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.)
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแผนการดำเนินงานใน ๖ เดือนข้างหน้าของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นั้น กระทรวงฯยังคงดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง โดยการบูรณาการประสานการช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยที่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งกระทรวงฯได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือเยียวยาลูกเรือประมงตกค้างที่เกาะอัมบนและเกาะเบนจิน่า ส่วนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ กระทรวงฯ จะเร่งรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักรับรู้มากขึ้น มีการพัฒนาทีมสหวิชาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ อบรมล่ามภาษาต่างๆในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะมีการลงนาม MOU ต่อต้านการค้ามนุษย์ ไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมทั้งทบทวบ MOU ไทย-ลาว และไทย-เมียนมาร์ ส่วนการแก้ไขปัญหาการขอทานทั่วประเทศ เน้นขับเคลื่อนงานเชิงรุกในการจัดระเบียบขอทานและเชิงรับในการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพคนขอทานภายหลังดำเนินการจัดระเบียบ
“อย่างไรก็ตาม กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะเดินหน้าขับเคลื่อนงานด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการให้เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด การจัดการพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง การเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มชาติพันธุ์ การพัฒนาที่อยู่อาศัยของชุมชนแออัดและผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปลายปี ๒๕๕๘ นี้ และด้านอื่นๆตามภารกิจของกระทรวงฯให้เห็นผลเป็นรูปธรรมจับต้องได้โดยมุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย