กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--กลุ่มทรู
เครือเจริญโภคภัณฑ์ และทรู คอร์ปอร์เรชั่น ผนึก 6 องค์กรใหญ่ เปิดตัวโครงการ “ปลูกเพื่อให้...We Grow Together” เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเผยโฉมนวัตกรรมแอพพลิเคชั่น We Grow เครือข่ายสังคมผู้ปลูกต้นไม้ ครั้งแรกของโลก และคลังข้อมูลเรื่องต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุด
เครือเจริญโภคภัณฑ์ และทรู คอร์ปอร์เรชั่น ร่วมกับกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมส่งเสริมการเกษตร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก มูลนิธิโครงการหลวง ผสานพลังทุกภาคส่วนขับเคลื่อนโครงการ “ปลูกเพื่อให้...We Grow Together” ที่ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 60 พรรษา และเผยโฉมแอพพลิเคชั่นระดับโลกWe Grow ซึ่งกลุ่มทรู สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นกลไกสนับสนุนการปลูกต้นไม้ในสังคมยุคใหม่ ให้ปลูกแล้วแชร์ข้อมูลผ่านแอพ ติดตามอัพเดทการเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แลกเปลี่ยนข้อมูลเชื่อมโยงเครือข่ายสังคมผู้ปลูกต้นไม้ครั้งแรกของโลก รวมทั้งเป็นคลังข้อมูลความรู้เรื่องต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุด ประกาศเชิญชวนคนไทย ร่วมสร้างพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน และภายในชุมชนแบบครบวงจร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายครบ 6 ล้านต้นทั่วประเทศในปีนี้ สนองแนวพระราชดำริในการให้คนไทย ตระหนักและเห็นคุณค่าของการรักษาป่าและการอนุรักษ์ธรรมชาติ พร้อมชวนโหลดแอพ We Grow ฟรี ได้ทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และ iOS หรือคลิกที่ www.wegrow.in.th
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และทรู คอร์ปอร์เรชั่น ที่จะมีส่วนร่วมปลูกใจรักสิ่งแวดล้อมให้กับคนในยุคปัจจุบัน จึงได้นำศักยภาพเทคโนโลยีและความเป็นผู้นำนวัตกรรมทางการสื่อสาร มาร่วมสร้างประโยชน์ และเพิ่มคุณค่าให้กับสังคม และประเทศไทยอย่างจริงจัง โดยพัฒนาแอพพลิเคชั่นระดับโลก We Grow เพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุน การปลูกต้นไม้ในสังคมยุคใหม่ ด้วยฟังก์ชั่นของแอพพลิเคชั่นที่ง่าย และครบครัน ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการนำไปสู่ความร่วมมือในการปลูกต้นไม้ และร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นในวงกว้างพร้อมกันทั่วประเทศ โดยสามารถปลูกแล้วแชร์ข้อมูลได้ง่ายทั้งผ่านแอพหรือเว็บไซต์ นับเป็นครั้งแรกของโลกที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายสังคมผู้ปลูกต้นไม้ ซึ่งได้รับความร่วมมืออันดียิ่งจากพันธมิตร 6 องค์กรชั้นนำที่มีบทบาทสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและป่าไม้ ร่วมเดินหน้าโครงการ “ปลูกเพื่อให้...We Grow Together” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 60 พรรษาสร้างพื้นที่สีเขียวทั่วประเทศ ซึ่งตั้งเป้าให้คนไทยปลูกต้นไม้ครบ 6 ล้านต้นทั่วประเทศในปีนี้ โดยแอพพลิเคชั่น We Grow ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของกลุ่มทรู จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้การปลูกต้นไม้มีความยั่งยืน ด้วยคุณสมบัติเด่นของนวัตกรรมที่ใช้งานง่าย สนับสนุนการปลูกต้นไม้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ด้วยหลากหลายฟังก์ชั่น ทั้งแชร์ อัพเดท แสดงความชื่นชอบ ติดตามภาพรวมสถิติการปลูกต้นไม้ สแกน QR Code พิมพ์นำไปติดที่ต้นไม้ เพื่อเผยแพร่ความรู้ข้อมูลต้นไม้ ทั้งยังเป็นคลังข้อมูลความรู้เรื่องต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุด ทั้งต้นไม้หายาก วิธีการปลูก การดูแลรักษา รวมทั้งเชื่อมโยงการปลูกต้นไม้กับการคำนวณปริมาณการดูดซับก๊าซคาร์บอน ที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดโลกร้อน โดยรองรับการใช้งานถึง 4 ภาษา ทั้งภาษาไทย อังกฤษ เยอรมัน และจีน สามารถใช้งานได้ผ่านสมาร์ท ดีไวซ์ ต่างๆ ดาวน์โหลดฟรีทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และ iOS
ในปี 2557 ที่ผ่านมา กลุ่มทรู มีความภูมิใจที่ได้นำแอพพลิเคชั่น We Grow ร่วมสนับสนุน “โครงการเฉลิมพระเกียรติปลูกไม้ผลยืนต้นครัวเรือนละต้น” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเป็นช่องทางให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียน ปลูกและแชร์ข้อมูลการปลูกไม้ผลยืนต้น ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดียิ่ง มีการบันทึกผลผ่านแอพลิเคชั่นเป็นจำนวนมาก และอีกหนึ่งความภูมิใจล่าสุดของกลุ่มทรู คือ การที่ผลงานแอพพลิเคชั่น We Grow ได้รับการยอมรับระดับโลก โดยเมื่อวันที่ 19 เมษายน นี้ We Grow App ได้รับรางวัลจากเวทีแสดงผลงานนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ระดับโลก “THE 43RD INTERNATIONAL EXHIBITION OF INVENTIONS, GENEVA 2015” ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส โดยได้รับรางวัลเหรียญทองเกียรติยศ ประเภทสิ่งแวดล้อมและพลังงาน(Environment & Energy) ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุด ตัดสินโดยคณะกรรมผู้ทรงคุณวุฒิจากนานาชาติกว่า 85 ท่าน นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลพิเศษ Special Prize of The Best Invention จากสมาคม The International Federation of Inventors’ Associations (IFIA)และรางวัล Special Prize of Outstanding Invention Award จากฮ่องกงด้วย
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการ “ปลูกเพื่อให้...We Grow Together” ในครั้งนี้ สอดคล้องกับภารกิจที่สำคัญของกรมป่าไม้ ที่จะส่งเสริมการปลูกป่าทุกรูปแบบ และสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรมป่าไม้พร้อมให้การสนับสนุนพันธุ์ไม้ และกล้าไม้ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้สนใจ โดยสามารถรับได้ที่หน่วยงานของกรมป่าไม้ทั่วประเทศ รวมถึงจะเดินหน้า ส่งเสริมและสนับสนุนพื้นที่ของกรมป่าไม้ เพื่อขยายพื้นที่สีเขียวให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กรมป่าไม้ พร้อมที่จะให้ความรู้ ข้อมูลพันธุ์ไม้ชื่อทั่วไปและชื่อทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงลักษณะ ประโยชน์ และวิธีการดูแล เพื่อเพิ่มข้อมูลในแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ We Grow ให้ครบถ้วนยิ่งขึ้น
นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือภาวะโลกร้อนนั้น ได้สร้างผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั้งโลก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษาพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศจำนวน 73 ล้านไร่ ที่ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ จึงเตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยหนึ่งใน กลยุทธ์สำคัญคือการมีส่วนร่วมของชุมชนให้มีความเข้าใจ รักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และสัตว์ป่า ซึ่งในโครงการ “ปลูกเพื่อให้...We Grow Together” นี้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์ไม้หายากที่ต้องรับการอนุรักษ์ หรือปลูกเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของคลังข้อมูลในแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์We Grow ด้วย
นางดาเรศร์ กิตติโยภาส ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการพระราชดำริและพื้นที่เฉพาะ กรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า โครงการ “ปลูกเพื่อให้...We Grow Together” ที่กรมส่งเสริมการเกษตร ได้มีส่วนร่วมและสนับสนุนกับกลุ่มทรู และหน่วยงานทุกภาคส่วนครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อต่อยอดโครงการเฉลิมพระเกียรติปลูกไม้ผลยืนต้นครัวเรือนละต้น ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ริเริ่มจัดทำขึ้น เนื่องในโอกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุครบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 เพื่อสนองแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไป ปลูกไม้ผลยืนต้นไว้สำหรับบริโภคภายในครัวเรือน มีการบันทึกผลทางระบบเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นแล้วกว่า 4 ล้านต้น ซึ่งนอกจากการเชิญชวนประชาชนผู้สนใจร่วมกันปลูกต้นไม้ผลยืนต้นเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติแล้ว กรมส่งเสริมการเกษตรยังพร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการไม้ผลยืนต้น เช่น ชื่อสามัญ ชื่อวิทยาศาสตร์ ลักษณะประจำพันธุ์ วิธีการปลูกและดูแลรักษา การขยายพันธุ์และการใช้ประโยชน์ เพื่อเป็นคลังความรู้ให้กับชุมชนและผู้สนใจทั่วไป ทางเว็บไซต์ www.growforprincess.in.th
นายชากรี รอดไฝ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า การสนับสนุนโครงการนี้ สอดคล้องกับเป้าหมายของกรมที่ต้องการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนพื้นที่ของกรมและกล้าไม้ สำหรับการจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน สนับสนุนข้อมูลไม้ชายเลนเพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ We Grow ตลอดจนเชิญชวนเจ้าหน้าที่ของกรม รวมถึงเครือข่ายชุมชน และประชาชนทั่วไป ที่ต้องการปลูกป่าชายเลน ดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่น เพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูลการปลูกไม้ชายเลนอีกด้วย
นางประเสริฐสุข จามรมาน ผู้อำนวยการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก กล่าวว่า องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก มีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดโครงการกิจกรรมการลดก๊าซเรือนกระจกภายในประเทศ เป็นที่ทราบกันดีว่าต้นไม้สามารถดูดกลับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก ผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืชและกักเก็บในรูปของเนื้อไม้ นอกจากนี้ในกระบวนการดังกล่าวต้นไม้ยังปล่อยก๊าซออกซิเจนที่มนุษย์ใช้ในการหายใจอีกด้วย ตัวอย่างการคำนวณปริมาณการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกที่อยู่ในแอพพลิเคชั่น พบว่าการปลูกพันธุ์ไม้อเนกประสงค์ 1 ต้น สามารถกักเก็บก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 40.27 กรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อวัน เทียบเท่ากับการลดการใช้ไฟฟ้าจากการปิดไฟประมาณ 2 ชั่วโมง (หลอดฟลูออเรสเซนต์ ขนาด 36 W) เป็นต้น ดังนั้น การปลูกต้นไม้จำนวน 1 ล้านต้น จะสามารถช่วยกักเก็บก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 402 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อวัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดและสร้างความยั่งยืนของโครงการ ทั้ง 7 องค์กรจะร่วมกันจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศตลอดทั้งปี ดังนี้
· การรณรงค์ให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของทุกองค์กร ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น We Grow พร้อมปลูกต้นไม้ในพื้นที่ส่วนตัว
· การจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น We Grow พร้อมปลูกต้นไม้ ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค อาทิ ในภาคเหนือจะจัดในพื้นที่ของมูลนิธิโครงการหลวง ภาคใต้จะจัดในพื้นที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ส่วนภาคตะวันตกจะจัดในพื้นที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
· ความร่วมมือกับกรมป่าไม้ นำแอพพลิเคชั่น We Grow ไปเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินโครงการ “รู้รักษ์ป่า สร้างมูลค่า ชุมชนยั่งยืน” ในอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ที่ส่งเสริมให้ชุมชนปลูกพืชเศรษฐกิจ ทดแทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เพื่อช่วยให้ประชาชนมีรายได้จากการปลูกพืชเศรษฐกิจควบคู่อย่างเกื้อกูล
· การขยายกิจกรรมสู่ระดับภูมิภาค ผ่านสำนักงานประจำภูมิภาคของกลุ่มทรู และโรงเรียนในโครงการทรูปลูกปัญญาทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนและคนไทยเข้าร่วมโครงการ “ปลูกเพื่อให้...We Grow Together” ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น แบบครบวงจร ให้ครบ 6 ล้านต้นทั่วประเทศในปีนี้
ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.wegrow.in.th