กรุงเทพ--26 มิ.ย.--กปน.
ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ กปน.ขายน้ำได้ต่ำกว่าเป้าและน้อยกว่าปีที่แล้ว ในขณะที่หน่วยราชการกลับติดหนี้ค่าน้ำเพิ่มสูงขึ้น แม้จะรณรงค์ให้ประหยัดน้ำแล้วก็ตาม ล่าสุดหน่วยราชการค้างค่าน้ำสูงถึง 412 ล้านบาท โดยมีกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทยติดค้างมากที่สุด
นายเกษมสันต์ ชำนิโรคสานต์ ผู้อำนวยการสำนักงานการประชาสัมพันธ์ได้เปิดเผยว่าในปีงบประมาณที่ผ่านมานี้ ยอดการจำหน่ายน้ำของการประปานครหลวงได้ลดลงจากที่ตั้งเป้าไว้ถึง 6% และเมื่อเทียบกับปีที่แล้วกลับมียอดจำหน่ายต่ำกว่าปีที่แล้ว 0.97% หรือเกือบ 1% ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเพราะที่ผ่านมายอดการจำหน่ายน้ำจะเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอยู่ในช่วงที่ตกต่ำ ประกอบกับรัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจทุกแห่งประหยัดการใช้น้ำลง 10%
แต่แม้ว่าหน่วยราชการจะประหยัดการใช้น้ำลงก็ตาม ในปีนี้การประปานครหลวงกลับต้องประสบปัญหาหน่วยราชการหลายแห่งติดขัดด้านงบประมาณจนทำให้ไม่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับชำระค่าน้ำ โดยขณะนี้ยอดหนี้ค่าน้ำของหน่วยราชการสะสมสูงถึง 412 ล้านบาทแล้ว โดยมีกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทยค้างมากที่สุด 152 และ 132 ล้านบาทตามลำดับ
ที่เป็นเช่นนี้อาจเนื่องด้วยทั้ง 2 หน่วยงาน มีสวัสดิการบ้านพักข้าราชการอยู่เป็นจำนวนมากและให้ใช้น้ำฟรี จึงทำให้มียอดการใช้น้ำค่อนข้างสูง ดังนั้นหากต้นสังกัดกวดขัดการใช้น้ำตามที่พักอาศัยว่าควรจะใช้น้ำไม่เกินคนละ 6 ลูกบาศก์เมตร/เดือน หรือ 200 ลิตร/วัน ตามมาตรฐานสากล เพราะหากมีการใช้เกินกว่านี้ถือว่าฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นก็ควรให้ผู้ใช้น้ำเป็นผู้รับภาระค่าน้ำส่วนที่เกินนี้เอง นอกจากนี้การที่มีการใช้น้ำประปาที่สูงมากอาจจะมีสาเหตุเกิดการรั่วไหลจากท่อภายในหรืออุปกรณ์การใช้น้ำชำรุดจะต้องเร่งตรวจสอบหาจุดรั่วให้พบและทำการจัดซ่อมโดยเร็ว ก็จะสามารถแก้ปัญหาค่าน้ำแพงได้อย่างเห็นผลเช่นกัน
ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ การประปานครหลวง ได้กล่าวย้ำอีกว่าการลดการใช้น้ำของหน่วยราชการต่างๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้ผู้ใดผู้หนึ่งรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว แต่หากได้มีการจัดตั้งเป็นคณะทำงานขึ้นมาเพื่อช่วยกันดูแล หลายๆ ฝ่ายแล้ว จะทำให้การลดการใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดงบประมาณไปได้มาก--จบ--