กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--สำนักงาน ก.พ.ร.
นายพงษ์อาจ ตรีกิจวัฒนากุล รองเลขาธิการ ก.พ.ร. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ก.พ.ร. เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตเป็นจำนวนมาก การประกอบกิจการของประชาชนจะต้องขออนุญาตในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวจากส่วนราชการหลายแห่ง อีกทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตบางฉบับไม่ได้กำหนดระยะเวลา รายละเอียดของเอกสารและหลักฐานที่จำเป็นที่ต้องใช้ยื่นเพื่อประกอบการพิจารณา รวมถึงไม่ได้กำหนดขั้นตอนในการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ไว้อย่างชัดเจน จึงเป็นการสร้างภาระและเป็นอุปสรรคต่อประชาชนในการยื่นคำขออนุญาตเพื่อดำเนินการต่างๆ จึงได้มีการตราพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558 โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 เป็นกฎหมายกลางที่กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐจะต้องจัดทำคู่มือสำหรับประชาชน โดยต้องกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตให้มีความชัดเจน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้รับบริการที่ไปติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐ
นายพงษ์อาจ ตรีกิจวัฒนากุล กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกฯ มีผลบังคับใช้ แล้วประชาชนผู้มาติดต่อขอรับบริการจากหน่วยงานภาครัฐจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในการให้บริการคือ ประชาชนจะเห็นขั้นตอนและระยะเวลาในการขอรับบริการ เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ยื่นพร้อมคำขอ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งจะบอกรายละเอียดไว้ในคู่มือสำหรับประชาชนเพื่อให้เกิดความชัดเจนโปร่งใสในการปฏิบัติงาน และในการรับคำขอของเจ้าหน้าที่ผู้รับคำขอต้องตรวจสอบคำขอและเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วน หากขาดเอกสารใดต้องรีบแจ้งให้ประชาชนผู้มารับบริการทราบทันที และต้องดำเนินการให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนดไว้ในคู่มือสำหรับประชาชน ซึ่งพ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯ นี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของการบริการงานภาครัฐที่จะขจัดความล่าช้า ทำให้การดำเนินงานเร็วขึ้น ง่ายขึ้น และค่าใช้จ่ายถูกลง