กรุงเทพ--3 ก.ย.--กปส.
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครวานนี้ (2 กันยายน 2540) ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพมหานคร จากการที่มีฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมาว่า กทม.ได้เฝ้าติดตามดูแลสถานการณ์ในหลายพื้นที่ ซึ่งมีน้ำท่วมขังหนัก อาทิ ในพื้นที่เขตพระโขนง คลองเตย คลองตัน ประเวศ และในบางส่วนของพื้นที่เขตสาธร มีฝนตกหนักประมาณ 50 กิโลเมตรขึ้นไป ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณที่สูงน่าเป็นห่วงมาก และระยะเวลาฝนตกนั้น ก็เป็นเวลาประมาณ 50 นาที แต่ปรากฏว่าทุกแห่งสามารถระบายน้ำจากผิวถนนได้ภายใน 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง ในส่วนของพื้นที่ ที่ระบายน้ำได้ช้าที่สุดคือ บริเวณสี่แยกบางนา ซึ่งขณะนี้ตนได้มีการสั่งแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการระบายน้ำไปแล้ว
ดร.พิจิตต กล่าวต่อว่า จากการที่ตนได้ออกไปตรวจน้ำท่วมเมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่ามีน้ำท่วมขังบริเวณสี่แยกบางนา เป็นพื้นที่เพียงจุดเดียว แต่ก็ทำให้การจราจรบนถนนสุขุมวิทติดขัดมาก เลยเข้ามาจนถึงสี่แยกเพลินจิต การจราจรต้องกลายเป็นอัมพาตแม้ว่าจะเป็นเวลา 5 ทุ่มแล้วก็ตาม นอกจากนั้นยังมีจุดที่น่าเป็นห่วงคือ บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ขาออก ซึ่งบริเวณเป็นแอ่งใหญ่ ก็ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อให้สามารถระบายน้ำออกจากผิวจราจรได้ทันเมื่อมีฝนตกหนัก
สำหรับเมื่อวันก่อนที่มีฝนตกหนักทุกพื้นที่เขต วัดได้เฉลี่ย 40 มิลลิเมตร มีน้ำท่วมขัง 11 จุด มีพื้นที่น่าเป็นห่วง น้ำท่วมขังติดต่อกันคือ ถนนพระรามที่ 5 หน้าโรงพยาบาลรามาธิบดี และบริเวณพระบรมรูปทรงม้า ถนนศรีอยุธยานั้น แต่เดิมที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดน้ำท่วมบริเวณดังกล่าว ตนจึงได้สั่งให้มีการแก้ไขโดยนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งระบายน้ำลงบริเวณคลองใกล้เคียง และคิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวอีกว่า ในภาวะที่จะมีฝนตกหนักติดต่อกันในช่วงหลายวันต่อจากนี้นั้น ก็ได้มีการจับตาดูอย่างไม่ประมาท ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น โดยได้ให้หน่วยฟองน้ำเข้าไปในพื้นที่ต่างๆ แล้ว และถือเป็นการทำงานร่วมกันครั้งแรก ระหว่างสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตของพื้นที่ ที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน และคาดว่าฝนจะตกหนักลงมาอีกในระยะเวลาข้างหน้านี้ จึงต้องคอยวิ่งตรวจสอบในจุดต่างๆ กันเอาไว้ก่อนเช่นเดียวกับที่ผ่านมา ซึ่งตนขอเรียนย้ำไว้อีกครั้งว่าขณะนี้ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น และฝนที่ตกลงมาตลอดจนน้ำที่ท่วมขังจะหนักอย่างไร--จบ--