กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--IR network
ผู้ถือหุ้น บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) ไฟเขียวปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.0605 บาท/หุ้น เคาะจ่าย 27 พฤษภาคม 2558 นี้ ด้านบิ๊กบอส “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย” ย้ำเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตุนงานในมือ (Backlog) กว่า 600 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ แถมยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลงานประมูลอีกเพียบ พร้อมเร่งขยายสาขาศูนย์ซ่อมบริการรถใหญ่ไปจังหวัดสุราษฎร์ธานีภายในไตรมาส 2/2558 ส่วนความคืบหน้าโครงการประมูลซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) อยู่ระหว่างขั้นตอนการสรุปผลและประกาศแจ้งผลการพิจารณาคัดเลือก คาดรู้ผลได้เร็วๆ นี้
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช. ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (CHO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2557 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0605 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียน ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 โดยให้จ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 พฤษภาคม 2558 (วันที่ไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลกำหนดเป็นวันที่ 7 พฤษภาคม 2558)
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทคาดว่าการเติบโตของรายได้ในกลุ่มงานผลิตภัณฑ์มาตรฐาน และกลุ่มงานผลิตภัณฑ์ออกแบบพิเศษจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน เนื่องจากปริมาณงานในมือที่ยังไม่ส่งมอบ (Backlog) ทั้งในและต่างประเทศอยู่อีกประมาณ 600 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ทั้งหมด และยังอยู่ระหว่างเตรียมยื่นประมูลงานใหม่อีกจำนวนมาก
“ส่วนงานกลุ่มบริหารโครงการและบริการคาดว่าเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน หลังจากงานโครงการบริหารงานซ่อมบำรุงและศูนย์ซ่อมสำหรับ Tesco-Lotus & Linfox มีผลตอบรับที่ดีและปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างขยายสาขาไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานีภายในไตรมาส 2/2558 และจังหวัดลำปางภายในไตรมาส 1/2559 ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 6 และ 7 ตามลำดับ” นายสุรเดช กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินในปี 2558 บริษัทยังคงมุ่งเน้นขยายตลาด และเพิ่มฐานลูกค้าเพื่อกระจายความเสี่ยง และผลักดันฐานรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งงานในประเทศและต่างประเทศ โดยต่างประเทศ บริษัทยังคงเน้นไปยังกลุ่มประเทศที่มีแผนการขยายสนามบินเพิ่มมากขึ้น เพราะจะสามารถผลักดันรายได้ในผลิตภัณฑ์ประเภทรถลำเลียงอาหารสำหรับสายการบิน (Catering) ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีกจากเดิมที่มีอยู่แล้ว ส่วนในประเทศ บริษัทเน้นขยายตลาดศูนย์ซ่อมบริการรถใหญ่ เนื่องจากมีแนวโน้มผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าและผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ให้ความสนใจอยู่จำนวนมาก และนอกจากนี้ บริษัทยังไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ส่วนความคืบหน้าโครงการประมูลซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน (ครั้งที่ 3) ด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น บริษัทได้เข้าร่วมการเสนอราคาเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งนี้กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสรุปผลและประกาศแจ้งผลการพิจารณาคัดเลือก และหากบริษัทได้รับงานดังกล่าวจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันรายได้ของบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไป