กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--IR network
"กิตติ พัวถาวรสกุล"เผยผู้ถือหุ้น บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ (NCL) ขานรับปันผลงวดปี"57 เป็นเงินสดในอัตรา 0.0238 บาทต่อหุ้น กำหนดรับเงินปันผลวันที่ 15 พ.ค.นี้ พร้อมลุยเปิดสาขาต่างประเทศแถบอาเซียนเพิ่ม รองรับ AEC ย้ำเป้ารายได้ปี"58 โตไม่ต่ำกว่า 30% อานิสงส์ภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว-บริษัทมีแหล่งรายได้เพิ่ม
นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (NCL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลประจำปี 2557 ในรูปของเงินสดในอัตราในอัตรา 0.0238 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 10 ล้านบาท โดยได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2558 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือ วันที่ 6 พฤษภาคม 2558 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2558
? "ที่ผ่านมาทีมผู้บริหารของ NCL มุ่งมั่นและทุ่มเททำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อนำพาธุรกิจของบริษัทให้มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น และก้าวไปข้างหน้าอย่างมีศักยภาพ ทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทีมผู้บริหารขอสัญญาว่าจะยังคงร่วมกันผลักดันธุรกิจให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนอย่างมั่นคงให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาวและเติบโตไปด้วยกัน"นายกิตติกล่าว
เขากล่าวถึงทิศทางธุรกิจในปีนี้ว่า คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปี 2557 เนื่องจากประเมินว่าปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศเริ่มเข้าสู่สภาวะฟื้นตัว ประกอบกับบริษัทจะมีแหล่งรายได้เพิ่มเข้ามาทั้งจากการเข้าไปจัดตั้งบริษัทย่อยที่ประเทศสิงคโปร์ โดยจัดตั้งเป็นสาขาของบริษัท เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศและเพิ่มแหล่งรายได้ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ใหม่ในการผลักดันธุรกิจให้มีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นการเติบโตที่มาจากสัดส่วนการเพิ่มขึ้นของงานโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่คาดว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่บริษัทเติบโตได้ดี ซึ่งปีนี้บริษัทมีแผนเปิดสาขาต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยจะเน้นประเทศในแถบอาเซียน อาทิ ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
อย่างไรก็ตามล่าสุดบริษัทได้เปิดเส้นทางเดินเรือระบบตู้สินค้าแห่งใหม่ จากท่าเรือระนองไปยังจุดเชื่อมต่อการค้าท่าเรืออาห์รอน อินเตอร์เนชั่นแนล พอร์ต เทอร์มินอล วัน นครย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญของบริษัทในการเพิ่มจุดขนส่งสินค้า และการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยทำให้ NCL มีศักยภาพในการแข่งขันและมีรายได้ที่เติบโตเพิ่มมากขึ้นจากการมาใช้บริการจากกลุ่มลูกค้า