กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--แอลจี-วัน
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (LG) เผยโฉมสุดยอดสมาร์ทโฟน LG G4 ในงานเปิดตัวที่จัดขึ้นใน 6 มหานครทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ค ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ อิสตันบูล และโซล โดยมีแขกผู้มีเกียรติกว่า 1,000 คนเข้าร่วมยลโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก LG G3 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านยอดขายและรางวัลจากหลากหลายเวที ทั้งนี้ ลูกค้าผู้โชคดีกว่า 4,000 คนจะได้รับเลือกให้เป็นกลุ่มแรกที่ได้เป็นเจ้าของ LG G4 ในแคมเปญการตลาดที่ใหญ่ที่สุดของแอลจี
แอลจีมุ่งพัฒนาให้ LG G4 มีรูปลักษณ์ที่ทั้งสวยสง่า เอื้อต่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ โดดเด่นทั้งด้านการถ่ายภาพและแสดงผล และยังสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เน้นผู้ใช้เป็นหลัก โดยกล้องหลังของ LG G4 ใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงขนาด F1.8 ซึ่งทำให้เซนเซอร์ของกล้องสามารถจับแสงได้มากขึ้นถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับกล้องของ LG G3 ขณะที่หน้าจอ IPS Quantum Display นั้นผ่านการพัฒนาคุณภาพให้เหนือกว่าหน้าจอ Quad HD ที่เปิดตัวไปในรุ่น G3 ในทุกด้าน เมื่อผสมผสานกับดีไซน์แบบ “Slim Arc” พร้อมเมนูและไอคอนในรูปลักษณ์ใหม่ LG G4 จึงเป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“แอลจีมุ่งมั่นเดินตามเป้าหมายในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ด้วยการพัฒนาสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย และเน้นการสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานที่มีความสมดุลในทุกด้าน จนถือเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตลาด” นายจูโน โช ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอลจี อีเลคทรอนิคส์ กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ กล่าว “เราต้องการให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับดีไวซ์ที่ตรงต่อความต้องการของพวกเขาอย่างแท้จริง โดยสามารถสร้างความประทับใจได้ทั้งในแง่ความรู้สึกขณะใช้งาน และเทคโนโลยีที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะดูที่ดีไซน์ กล้องถ่ายรูป จอแสดงผล หรือซอฟต์แวร์ LG G4 ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่เหนือชั้นที่สุดของแอลจี”
ดีไซน์หรูหรา ใช้งานสะดวก
แอลจีให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการเลือกใช้วัสดุชั้นยอด โดยฝาหลังของ LG G4 เป็นงานหนังแท้ทำมือแบบ full grain มีให้เลือกใน 6 โทนสี กระบวนการฟอกฝาด (vegetable tanning) ที่นำมาใช้ในการเตรียมวัสดุหนังแท้นี้ เป็นเทคนิคเก่าแก่ที่ต้องอาศัยฝีมือของช่างผู้เชี่ยวชาญในการผลิตและย้อม ฝาหลังของ LG G4 มีโทนสีอบอุ่นและสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาได้ตามแบบของหนังแท้ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากไม่มีการใช้สารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตราย นอกจากนี้ LG G4 ยังมีฝาหลังสีขาว Ceramic White ที่โดดเด่นด้วยลวดลายแบบสามมิติ ฝาหลังสีเทา Metallic Gray หล่อหลอมจากฝีมือช่างศิลป์ผู้เชี่ยวชาญ และฝาหลังสีทอง Shiny Gold
ดีไซน์ที่สวยสง่า นำเทรนด์ ขนาดเหมาะมือทำให้ LG G4 มีรูปลักษณ์แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทรงแบนราบในบอดี้โลหะที่พบได้ทั่วไป โดย LG G4 มีตัวเครื่องแบบ Slim Arc เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยหน้าจอที่มีทรงโค้งเล็กน้อย ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวเครื่องดูสวยไม่ซ้ำใครแล้ว ยังทำให้ LG G4 ทนทานกว่าสมาร์ทโฟน ทรงราบทั่วไปถึง 20% ในกรณีการตกกระแทกแบบคว่ำหน้าจอลง และยังถือเครื่องได้ถนัดมือกว่าอีกด้วย
นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ดีไซน์ของ LG G4 ยังสะท้อนถึงแนวคิดเบื้องหลังรูปลักษณ์ภายนอกที่กล่าวมานี้ ด้วยสไตล์กราฟฟิกที่เรียบง่าย ใช้งานสะดวก โดยไอคอนต่างๆ จะมีสีสันสดใสกว่าในรุ่นก่อนและมีมุมกลมมน เข้ากันกับดีไซน์เครื่องแบบ Slim Arc ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่วิดเจ็ต Smart Notice นั้นสามารถเปลี่ยนสีพื้นหลังและตัวอักษรให้เข้ากับภาพพื้นหลังหน้าจอได้อีกด้วย
สุดยอดประสบการณ์การถ่ายภาพและแสดงผล
แอลจีได้ออกแบบให้กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลของ LG G4 สามารถถ่ายภาพได้สวยแม้ในสภาพแสงที่ไม่อำนวย โดยเลนส์ที่มีรูรับแสงขนาด F1.8 ช่วยให้เซนเซอร์กล้องสามารถจับแสงได้มากขึ้นถึงร้อยละ 80 ในขณะที่ฟังก์ชัน OIS 2.0 ยังช่วยให้ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าระบบ OIS+ หนึ่งเท่าตัว จึงสามารถชดเชยการสั่นไหวของกล้องในแนวตั้งและแนวนอนได้มากขึ้นจาก 1 องศาเป็น 2 องศา และยังชดเชยการสั่นไหวในแนวลึก เพื่อให้ภาพถ่ายคมชัดสูงสุด
คุณสมบัติ Manual Mode ของ LG G4 ช่วยให้ช่างภาพมืออาชีพสามารถถ่ายภาพได้อย่างใจนึกด้วยการตั้งค่าโฟกัส ความเร็วชัตเตอร์ ISO การชดเชยปริมาณแสง และการปรับอุณหภูมิแสงสีขาวในทุกๆ ช็อต โดยภาพถ่ายทุกภาพสามารถจัดเก็บได้ทั้งในรูปแบบ RAW และ JPEG เพื่อให้นำไปปรับแต่งได้โดยไม่สูญเสียรายละเอียดหรือความคมชัด
นอกจากนี้ กล้องหลังของ LG G4 ยังมีระบบ Color Spectrum Sensor (CSS) ซึ่งมีให้ใช้งานในสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก โดยฟังก์ชันนี้ทำให้ภาพถ่ายมีโทนสีที่แม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยเซนเซอร์ที่สามารถอ่านค่าสีในระบบ RGB ได้จากแสงในสถานที่นั้นๆ และยังตรวจจับแสงอินฟราเรดที่สะท้อนออกมาจากวัตถุต่างๆ ได้อีกด้วย ระบบ CSS จะนำข้อมูลที่อ่านได้ทั้งหมดนี้มาปรับโทนแสงสีขาวและสีแฟลช เพื่อให้ภาพที่ถ่ายออกมาใกล้เคียงกับโทนสีจริงมากที่สุด จึงกำจัดปัญหาสีแดงเพี้ยนเป็นสีส้มสด หรือสีขาวกลายเป็นสีเหลืองหม่นไปได้อย่างสิ้นเชิง
เพื่อภาพถ่ายเซลฟี่ที่คุณภาพดีเหมือนภาพจากกล้องมืออาชีพ LG G4 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลที่จับภาพได้ดีทั้งภาพเดี่ยวและภาพกลุ่ม พร้อมฟังก์ชัน Gesture Interval Shot ที่เหนือชั้นกว่าระบบ Gesture Shot ในรุ่นเดิม ด้วยการกำมือสองครั้งหน้ากล้องเป็นสัญญาณให้ถ่ายภาพเซลฟี่ 4 ภาพในเวลา 2 วินาที ให้คุณไม่พลาดทุกช็อตสวยแม้ในสภาพที่ถ่ายรูปได้ไม่สะดวก
LG G4 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้หน้าจอ IPS Quantum Display ใหม่ ขนาด 5.5 นิ้ว ที่แอลจี ดิสเพลย์ พัฒนาให้แสดงสีได้แม่นยำกว่าเดิมถึงร้อยละ 20 สว่างขึ้นถึงร้อยละ 25 และมีระดับคอนทราสท์มากขึ้นร้อยละ 50 จอภาพใหม่นี้ยังเป็นจอความละเอียดระดับ Quad HD รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยี Advanced In-Cell Touch (AIT) ซึ่งผนึกรวมส่วนจอแสดงผล LCD และเซนเซอร์ของทัชสกรีนให้รวมกันเป็นชิ้นเดียว ช่วยให้จอสามารถแสดงสีสันได้แม่นยำและไวต่อการสัมผัสมากยิ่งขึ้น จอภาพของ LG G4 ผ่านการตั้งค่าสีตามมาตรฐาน DCI (Digital Cinema Initiatives) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในกลุ่มสตูดิโอภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ด
เปี่ยมด้วยพลังและประสิทธิภาพ
ถึงแม้ว่าจอทัชสกรีนของ LG G4 จะมีคุณภาพเหนือชั้นกว่าที่เคย แต่ก็ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อความทนทานของแบตเตอรี่ โดยสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh แบบถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ไม่ง่ายนักในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ๆ ในขณะที่ชิปประมวลผล Qualcomm® Snapdragon 808 พร้อม X10 LTE มอบทั้งประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานที่โดดเด่น จึงทำให้ LG G4 สามารถใช้งานได้เต็มวันอย่างไร้กังวล ถึงแม้ว่าจะมีความจุแบตเตอรี่เท่ากับรุ่น G3 แต่ LG G4 จะสามารถรับมือกับการใช้งานได้นานกว่าถึง 20%
เนื่องในโอกาสการเปิดตัวชิป Snapdragon 808 สู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก ดร. พอล อี เจค็อบส์ ประธานกรรมการบริหารของควอลคอมม์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว LG G4 กับนายจูโน โช ที่มหานครนิวยอร์ค ขณะที่รองประธานกรรมการของควอลคอมม์ นายจิม โดห์ ได้ไปร่วมงานเปิดตัวที่กรุงโซล
“แอลจีและควอลคอมม์ เทคโนโลยีส์ ได้ร่วมกันพัฒนาชิป Snapdragon 808 มาตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เพื่อปรับแต่งเทคโนโลยีในเชิงลึก และวางรากฐานให้กับคุณสมบัติใหม่ๆ ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครของ LG G4” ดร. เจค็อบส์ กล่าว “สมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการรวบรวมสุดยอดนวัตกรรมต่างๆ มาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง”
ซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน
LG G4 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ UX 4.0 ซึ่งมุ่งเน้นตอบโจทย์การใช้งานจริง มอบความสะดวกสบายใช้งานง่าย จึงรองรับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเมนูรูปแบบใหม่ที่ลดขั้นตอนในการทำงานต่างๆ ลง แต่ขณะเดียวกันได้เพิ่มตัวเลือกในการตั้งค่ามากขึ้นสำหรับการใช้งานในขั้นสูง
- ถ่ายรูปได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องเปิดแอพกล้อง ด้วย Quick Shot เพียงกดปุ่ม Rear Key ด้านหลังเครื่องสองครั้งโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ นอกจากนี้ กล้องของ LG G4 ยังรวดเร็วอย่างน่าทึ่ง พร้อมใช้งานในเวลาเพียง 6/10 ของวินาที
- แอพ Gallery ใหม่ เปิดดูภาพถ่ายจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรองรับการเปิดดูรูปในไทม์ไลน์ ฟังก์ชัน Memories จะจัดภาพถ่ายและวิดีโอเป็นกลุ่มตามสถานที่และวัน-เวลาที่ถ่าย โดยไม่ต้องพึ่งพาการอัพโหลดขึ้นคลาวด์
- Event Pocket ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมทุกกิจกรรมและการนัดหมายไว้ในปฏิทินเดียว เพียงลากตารางนัดหมายจากปฏิทินและเว็บไซต์โซเชียลมีเดียต่างๆ มาวางรวมกันหลังจากการตั้งค่าการใช้งานครั้งแรก โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการใช้ปฏิทินหลายอันอีกต่อไป
- Smart Notice ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนให้ทราบถึงข้อมูลสภาพอากาศ การเดินทาง และสาระประโยชน์อีกมากมาย โดยระบบจะสังเกตและปรับข้อมูลให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้ใช้ อาทิ วิธีการเดินทางไปทำงาน Smart Notice สามารถแจ้งเตือนผู้ใช้ถึงข้อมูลต่างๆ ด้วยข้อความที่แม่นยำ ตรงต่อสถานการณ์ เช่น อาจเตือนให้ผู้ใช้นำร่มติดตัวไปด้วย ขณะที่เดินไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน
- Quick Help ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาคำตอบสำหรับข้อสงสัยในการใช้งาน LG G4 ได้ทันที ผ่านทางวิดเจ็ท Smart Notice โดยนอกจากจะมีคำอธิบายเกี่ยวกับการตั้งค่าต่างๆ แล้ว ยังสามารถช่วยนัดหมายให้ผู้ใช้โทรศัพท์ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อขอคำแนะนำอีกด้วย
แอลจีได้จับมือกับพันธมิตรหลายรายเพื่อร่วมกันเสริมให้ประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟน LG G4 เหนือชั้นยิ่งขึ้น โดย LG G4 ทุกเครื่องจะมาพร้อมกับแอพชุด Google Office เพื่อการทำงานและติดต่อประสานงานในระหว่างเดินทาง โดยเจ้าของสมาร์ทโฟน LG G4 ทุกคนจะสามารถใช้พื้นที่เก็บข้อมูลในคลาวด์จาก Google Drive ได้ฟรีถึง 100GB เป็นเวลาสองปีเต็ม ส่วนคุณสมบัติ MirrorLink ยังช่วยให้ LG G4 ทำงานร่วมกับรถยนต์จากโฟล์คสวาเกนได้ โดยผู้ขับขี่รถยนต์จะสามารถใช้หน้าจอบนแผงคอนโซลรถเพื่อควบคุมฟังก์ชันด้านการโทรศัพท์ นำทาง และเปิด-ปิดเพลงบน LG G4 ได้
LG G4 จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศเกาหลีก่อนในวันที่ 29 เมษายนนี้ ก่อนจะเปิดตัวออกสู่ตลาดอื่นทั่วโลก ผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือกว่า 180 ราย โดยจะมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับราคาและช่องทางการจำหน่ายในแต่ละประเทศต่อไป
สำหรับในประเทศไทย บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะเปิดตัว LG G4 สุดยอดสมาร์ทโฟนแห่งปี 2015 ที่งาน Thailand Mobile Expo 2015 ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ บูทแอลจี (ZL2) โซนพลาซ่า เวลา 14.10 น. เป็นต้นไป
ข้อมูลทางเทคนิค:*
ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 808 พร้อม X10 LTE
จอภาพ: Quad HD IPS Quantum Display ขนาด 5.5 นิ้ว (ความละเอียด 2560x1440 หรือ 538ppi)
หน่วยความจำ: 32GB eMMC ROM และ 3GB LPDDR3 RAM พร้อมช่องใส่การ์ดไมโครเอสดี
กล้อง: กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ F1.8 / OIS 2.0 กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ F2.0
แบตเตอรี่: 3,000mAh (ถอดเปลี่ยนได้)
ระบบปฏิบัติการ: Android 5.1 Lollipop
ขนาด: 148.9 x 76.1 x 6.3-9.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก: 155 กรัม
เครือข่ายที่รองรับ: 4G / LTE / HSPA+ 21 Mbps (3G)
การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a, b, g, n, ac / Bluetooth 4.1LE / NFC / USB 2.0
สี: (เซรามิก) เทา Metallic Gray / ขาว Ceramic White / ทอง Shiny Gold , (หนังแท้) ดำ / น้ำตาล / แดง / ฟ้า / เบจ / เหลือง
อื่นๆ: ถ่ายภาพแบบ Manual Mode / Gesture Interval Shot / Quick Shot
*สเปกและสีของเครื่องอาจแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด