กรุงเทพฯ--5 พ.ค.--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 เผย ไม้ผลเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ตอนบนฝั่งอ่าวไทย ปี 2558 ระบุ ทุเรียน และ เงาะ มีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น ด้าน มังคุด และ ลองกอง ปริมาณผลผลิต ลดลงจากปี 2557 เตือน การแปรปรวนของสภาพอากาศจะส่งผลให้ผลผลิตเสียหายได้ แนะชาวสวนหมั่นสังเกตดูแล
นายธรณิศร กลิ่นภักดี ผู้อำนวยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 สุราษฎร์ธานี (สศก.8) เปิดเผยถึงสถานการณ์ไม้ผลเศรษฐกิจ ปี 2558 ของเงาะ ทุเรียน มังคุด และลองกอง ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนฝั่งอ่าวไทย 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช และพัทลุง (ข้อมูล ณ วันที่ 29 เมษายน 2558) พบว่า
ทุเรียน มีเนื้อที่ให้ผล 172,575 ไร่ ลดลงจากปี 2557 ร้อยละ 0.06 มีปริมาณผลผลิต 201,028 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.90 ผลผลิตต่อไร่ 1,165 กิโลกรัม/ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.96
เงาะ มีเนื้อที่ให้ผล 74,249 ไร่ลดลงจากปี 2557 ร้อยละ3.60 ปริมาณผลผลิต 54,943 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.44 ผลผลิตต่อไร่ 740 กิโลกรัม/ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.72
มังคุด มีเนื้อที่ให้ผล 155,412 ไร่ลดลงจากปี 2557 ร้อยละ 0.90 มีปริมาณผลผลิต 100,918 ตัน ลดลงร้อยละ 1.55 ผลผลิตต่อไร่ 649 กิโลกรัม/ไร่ ลดลงร้อยละ 0.66
ลองกอง มีเนื้อที่ให้ผล 83,737 ไร่ลดลงจากปี 2557 ร้อยละ 4.01 มีปริมาณผลผลิต 49,145 ตัน ลดลงร้อยละ 6.35 ผลผลิตต่อไร่ 587 กิโลกรัม/ไร่ ลดลงร้อยละ 2.44
อย่างไรก็ตาม หากเกิดการแปรปรวนของสภาพอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ จะส่งผลทำให้ดอกร่วง หรือผลผลิตเสียหายได้ จึงขอให้ชาวสวนผลไม้ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เอาใจใส่ในการดูแลรักษาผลผลิต เนื่องจากในช่วงนี้สภาพอากาศที่แปรปรวนร้อนสลับฝนจะก่อให้เกิดความชื้นเป็นสาเหตุให้เกิดการระบาดของศัตรูพืชที่มากัดกินได้ง่าย ซึ่งหากพบเจอ ควรจำกัดโดยเร็วอย่างถูกวิธี อีกทั้งในช่วงการเก็บเกี่ยว หากมีผลผลิตที่เสียหายร่วง ในสวน ควรมีการกำจัดอย่างถูกวิธีโดยการเผาหรือฝังเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและเชื้อราที่ระบาดในความชื้นสูง นอกจากนี้ เกษตรกรควรร่วมกันตระหนักในการเพิ่มผลผลิตแนะแนวทางในการลดต้นทุน และควรมีการรวมกลุ่มชาวสวนผลไม้เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน สร้างความเข้มแข็งร่วมกันเพื่อให้ผลไม้มีคุณภาพและยกระดับราคา