กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--IR PLUS
บมจ. ธนพิริยะ หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่แห่ง จ.เชียงราย ภายใต้ชื่อ “ธนพิริยะ” ตั้ง RHB OSK เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เดินหน้ายื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. เตรียมขายไอพีโอ 200 ล้านหุ้น พร้อมเข้าตลาด mai ภายในปีนี้ “ธวัชชัย พุฒิพิริยะ” เอ็มดี เผย ระดมทุนเพื่อขยายกิจการร้านค้าชุมชนเชื้อสายไทยที่มีมาตรฐานระดับสากล รองรับการเติบโตทางการค้าแถบชายแดนภาคเหนือที่เชื่อมต่อกับลาว และเมียนมาร์ ด้าน “รัฐชัย ธีระธนาวัฒน์” บอสใหญ่ RHB OSK ชี้ ธุรกิจตั้งอยู่ในยุทธศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม มีแนวโน้มเติบโตสูงตามแผนเปิด AEC และการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 รวมทั้งการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างมากจากนักท่องเที่ยวจีน และการเพิ่มเที่ยวบินของสายการบินราคาประหยัด ส่งผลให้ผลงานบริษัทเติบโตต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไรสุทธิ
นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า บริษัทฯ ประกอบธุรกิจธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งในรูปแบบซุปเปอร์มาร์เก็ตในจังหวัดเชียงราย ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และขณะนี้ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาท ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการขยายสาขา เพิ่มศูนย์กระจายสินค้า ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 11 สาขา แบ่งออกเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต 10 สาขา และศูนย์ค้าส่ง 1 สาขาโดยทุกสาขามีที่ตั้งในจังหวัดเชียงราย กระจายอยู่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย สาขาหอนาฬิกา, สาขาเด่นห้า, สาขาศรีทรายมูล, สาขาบ้านดู่, สาขาแม่สาย, สาขาปาก่อ, สาขาห้วยไคร้, สาขาเวียงป่าเป้า, สาขาแม่จัน และศูนย์สินค้าส่ง เด่นห้าโฮลเซล นอกจากนี้ บริษัทฯ มีบริษัทย่อย 1 แห่ง ซึ่งถือหุ้น 100% คือบริษัท ธนภูมิ พร๊อพเพอร์ตี้ 2013 จำกัด ประกอบธุรกิจจัดหาและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อใช้ในการเปิดสาขาของธนพิริยะ
สำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา 2555-2557 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 944 ล้านบาท1,040 ล้านบาท และ 1,202 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยกว่า 11% ต่อปี ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 7.1 ล้านบาท 16.6 ล้านบาท และ 45.4 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายการรักษาระดับรายได้และกำไรสุทธิให้เติบโตในอัตราที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ด้านเภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP เปิดเผยถึง แผนการดำเนินธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ต ของ "ธนพิริยะ" ว่า จากการที่มีเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น ที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ทำให้ธนพิริยะเข้าใจวิถีชีวิตของคนในพื้นที่เป็นอย่างดี ทำให้รูปแบบร้านธนพิริยะเป็นการผสมผสานที่ลงตัว ระหว่างการมีสินค้าที่หลากหลายและราคาย่อมเยาเหมือนโมเดิร์นเทรด แต่มีความสะดวกสบายเหมือนร้านสะดวกซื้อ อีกทั้งสาขาของบริษัทฯ อยู่ในแหล่งชุมชน ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม มีสินค้าหลากหลายกว่า 15,000 รายการ ลูกค้าจึงสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างครบถ้วน สะดวก และรวดเร็ว ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไรสุทธิ นอกจากนี้ จังหวัดเชียงรายยังเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในภูมิภาคอาเซียน และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะยิ่งสร้างกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น เพราะจังหวัดเชียงรายเชื่อมต่อกับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จากการเปิดเสรีการค้า AEC น่าจะส่งให้ผลการดำเนินสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ RHB OSK เปิดเผยว่า “ธนพิริยะ” มีจุดเด่นคือความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง เข้าใจวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นและความต้องการของลูกค้าเป็นอยางดี รวมถึงการใช้กลยุทธ์ในการบริหารจัดการธุรกิจแบบมืออาชีพ และที่สำคัญคือ สาขาของธนพิริยะอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดี จึงทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้ดีมาโดยตลอด
โดยแนวโน้มเศรษฐกิจเชียงรายในปี 2558 สำนักงานคลัง จ.เชียงราย คาดว่า จะขยายตัวในอัตราร้อยละ 5.5โดยได้แรงหนุนทั้งด้านอุปทานและอุปสงค์ ซึ่งด้านอุปทาน ภาคบริการมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาเชียงรายโดยผ่านสะพานเชื่อมแม่น้ำโขง และจากที่ผู้ประกอบการสายการบินมาเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น รวมถึงการแข่งขันของสายการบินราคาประหยัด ที่ช่วยสนับสนุนให้จำนวนนักท่องเที่ยวเชียงรายเพิ่มขึ้น ประกอบกับภาคเกษตรกรรมที่มีแนวโน้มขยายตัวขึ้นจากนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวของภาครัฐ
ส่วนด้านอุปสงค์ การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเข้าสู่ AECอีกทั้ง ด้านมูลค่าการค้าชายแดน คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก จากการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4
“เชื่อว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะเติบโตแบบก้าวกระโดดจากการก้าวเข้าสู่ AEC และแน่นอนว่า ธนพิริยะ จะได้รับประโยชน์จากตรงนี้เต็ม ๆ เพราะนอกจากจะเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้แล้ว การตั้งอยู่ใน จ.เชียงราย ยังถือว่าได้เปรียบคู่แข่งรายอื่น เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีมากๆ มีแนวชายแดนติดต่อกับลาว และพม่า ซึ่งดีสำหรับการค้าการลงทุน มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของภาคเหนือ มีสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จะยิ่งสนับสนุนให้ธุรกิจโตอย่างแข็งแกร่งนับจากนี้และในอนาคตต่อไป” นายรัฐชัย กล่าว