กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์
จุดเริ่มต้นการออกแบบรถยนต์ของฟอร์ดเกิดขึ้นจากความเรียบง่ายเพียงปลายดินสอแกรไฟต์ธรรมดาๆไปสู่กระบวนการเทคโนโลยีล้ำสมัยในห้องทดสอบขับขี่รถยนต์เสมือนจริง
เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกต่างๆจากฟอร์ด ยกตัวอย่างเช่น ห้องทดสอบขับขี่รถยนต์เสมือนจริง ที่เรียกว่า ฟอร์ด อิมเมอร์สีฟ เวอร์ชัวร์ เอ็นไวรอนเมนต์ (Ford immersive Virtual Environment หรือ FiVE) ช่วยให้ทีมนักออกแบบ วิศวกร และนักการยศาสตร์ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ในโลกเสมือนจริง
การผสานกันอย่างลงตัวระหว่างการใช้เครื่องมือออกแบบดั้งเดิมเข้ากับเครื่องมือออกแบบระบบดิจิตอลช่วยให้ช่างฝีมือของฟอร์ดทั้งชายและหญิงสามารถทำงานร่วมกันในระดับสากลเพื่อการออกแบบรถยนต์ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยมให้กับผู้ใช้งานมากที่สุด
ขั้นตอนการสร้างสรรค์รถยนต์รุ่นใหม่แต่ละรุ่นของฟอร์ดเริ่มต้นขึ้นด้วยคำถามต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ใครคือผู้ขับขี่รถยนต์ พวกเขาต้องการเดินทางไปที่ไหน วัตถุประสงค์คือเพื่อใช้รถยนต์พาครอบครัวไปพักผ่อนที่ชายหาด หรือใช้เพื่อขนสัมภาระจำนวนมากสำหรับการทำงานนอกสถานที่ พวกเขากำลังมองหารถยนต์ที่ทันสมัยและมีชีวิตชีวา หรือรถยนต์ที่แข็งแกร่งและทรงพลัง เป็นต้น
ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองเมลเบิร์น เดียร์บอร์น โคโลญจน์ หรือหางโจว ทีมนักออกแบบของฟอร์ดต่างครุ่นคิด เพื่อค้นหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านั้น พร้อมมุ่งมั่นที่จะประยุกต์ข้อมูลที่ได้มาเพื่อสรรสร้างรถยนต์ฟอร์ดให้ผู้ขับขี่ทั่วทุกมุมโลกได้รู้จักและหลงรัก คำถามคือกระบวนการดังกล่าวนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ทั้งหมดเริ่มต้นจากดินสอและกระดาษร่างเพียงเท่านั้น เหล่านักออกแบบได้ค่อยๆ เปลี่ยนไอเดียในการสร้างรถยนต์รุ่นใหม่ให้กลายเป็นภาพร่างสเก็ตช์สองมิติ “การวาดภาพสเก็ตช์อย่างคร่าวๆ ช่วยให้นักออกแบบสามารถพัฒนาแนวคิดต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง” มร. เดฟ ดูวิท ผู้จัดการฝ่ายออกแบบ ฟอร์ด เอเชียแปซิฟิก กล่าว “การทำงานด้วยความเร็วระดับปานกลางอย่างการวาดรูปทำให้เราสามารถพัฒนาและต่อยอดแนวคิดการออกแบบให้เกิดความแตกต่างและหลากหลาย เมื่อเราได้ภาพสเก็ตช์จำนวนหนึ่งแล้ว เราจึงคัดเลือกภาพที่สามารถแสดงแก่นแท้ของรถยนต์ที่เราต้องการผลิตได้ดีที่สุดออกมา”
ทันทีที่นักออกแบบสามารถจับแก่นสำคัญของรถยนต์รุ่นใหม่ได้แล้ว จะนำภาพสเก็ตช์ที่ได้ไปแปลงเป็นไฟล์ดิจิตอล “ความก้าวหน้าล่าสุดในขั้นตอนการออกแบบดิจิตอลช่วยให้การทำงานของทีมนักออกแบบของเรานั้นรวดเร็วยิ่งขึ้น” มร.ดูวิท กล่าว “นอกจากนี้ยังช่วยให้พวกเราสามารถปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนโปรเจ็คต่างๆ กับออฟฟิศออกแบบของฟอร์ดได้ทั่วโลก”
เครื่องมือดิจิตอลยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทีมออกแบบของฟอร์ด ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเพิ่มเติมรายละเอียดและสีสัน รวมไปถึงการเลือกชนิดพื้นผิวของรถยนต์ ทั้งยังสามารถเลือกปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์เพื่อค้นหาแนวทางการออกแบบที่เป็นไปได้ต่างๆ จากนั้นจึงปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์เหล่านี้และสร้างโมเดลดินเหนียวขนาดสมจริงแบบสามมิติขึ้น ซึ่งทีมนักออกแบบของฟอร์ดสามารถศึกษาทำความเข้าใจสเกลและสัดส่วนของรถยนต์จากโมเดลดินเหนียวได้อย่างละเอียดและดำเนินการสร้างสรรค์รถยนต์ออกสู่ท้องตลาดต่อไป
สำหรับขั้นตอนการตกแต่งภายนอกของตัวรถนั้น ทีมนักออกแบบของฟอร์ดจะทำงานร่วมกับทีมประติมากรดินเหนียวเพื่อแก้ไขปรับปรุงองค์ประกอบของการออกแบบที่สำคัญของรถ เช่น ส่วนโครงสร้างหลัก โดยจะใช้เทปกาวเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารและทำงานระหว่างกัน และเทปกาวนี้ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการปรับแต่งโครงสร้างด้านนอกของรถได้อย่างมีประสิทธิภาพในแบบที่ระบบดิจิตอลไม่สามารถทำได้อีกด้วย อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยเก็บรายละเอียดสุดท้ายของขั้นตอนการออกแบบ
มร. แลร์รี่ เพโลว์สกี ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างโมเดลและการออกแบบดีไซน์รถภายนอกของฟอร์ด กล่าวว่า “เทปกาวช่วยให้เราสามารถร่างเส้นต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ เปรียบได้กับเวลาช่างไม้วางโครงสร้างอาคาร ดังนั้น เมื่อทีมนักออกแบบติดแนวเทปลงบนโมเดลดินเหนียว ทีมงานก็สามารถทราบได้ทันทีว่าเทปกาวในแต่ละจุดหมายถึงอะไร”
“การใช้เทปกาวสำหรับการออกแบบรถยนต์นี้มอบทั้งความแม่นยำและความเป็นศิลปะอย่างที่ไม่มีเครื่องมือชนิดไหนสามารถทำได้” มร. เพโลว์สกี กล่าวเสริม และอธิบายเพิ่มเติมว่า “เทปกาวเป็นวัสดุที่มีการใช้งานยืดหยุ่นสูง ทีมนักออกแบบสามารถติดและดึงออกได้หลายครั้งจนกว่าจะเจอจำแหน่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ” (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่)
หลังจากกระบวนการการออกแบบเสร็จสิ้นแล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนการผลิต นักออกแบบและวิศวกรของฟอร์ดจะร่วมกันประกอบรถยนต์ฟอร์ดรุ่นใหม่ขึ้นภายในห้องทดสอบรถแบบเสมือนจริง หรือ FiVE โดยประยุกต์ใช้อุปกรณ์สามมิติ เช่น แว่นตา Oculus Rift ในการสำรวจทุกมุมมองเพื่อการออกแบบและพัฒนายานพาหนะ
“เทคโนโลยีต่างๆ เช่น ห้องทดสอบ FiVE นับเป็นเครื่องพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านการออกแบบในอุตสาหกรรมรถยนต์ของฟอร์ดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา” มร. ดูวิท กล่าว “การที่ทีมนักออกแบบ วิศวกร และนักกายวิภาคศาสตร์ของเราได้ร่วมกันสัมผัสประสบการณ์การขับขี่เสมือนจริงนี้ ทำให้เราสามารถประเมินผลการออกแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการผลิตรถยนต์จริงซึ่งมีต้นทุนสูง ห้องทดสอบ FiVE ของฟอร์ดช่วยทำให้เรามั่นใจว่า การออกแบบรถยนต์ของเราจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
จากภาพร่างดินสอบนกระดาษสเก็ตช์ธรรมดาสู่โลกแห่งการผลิตรถยนต์อันแท้จริง ขั้นตอนการออกแบบของฟอร์ดต้องอาศัยทักษะความรู้ ความสามารถของช่างฝีมือ วิศวกร ศิลปิน และช่างเทคนิคจำนวนนับพันคนเพื่อให้มั่นใจได้ว่า รถยนต์ฟอร์ดทุกคันจะสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่สูงสุด พร้อมการออกแบบที่ปราณีตและผสานกันอย่างลงตัวกับคุณภาพสูงสุดของรถในระดับสากล ดังที่ฟอร์ดมุ่งมั่นนำเสนอตลอดมา