กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--ทีโอที
กระแสดิจิทัลมาแรงมาก เช่น Mobile Broadband, Internet of Things (IoT), Big Data, Social Media และ Wearable Device โดยเฉพาะในประเทศไทย มีจำนวนโทรศัพท์เคลื่อนที่ถึง 150% ของประชากรนับว่าเป็นลำดับ 1 ของโลกจากการจัดลำดับ Networked Readiness Index (NRI) เมื่อ 16 เมษายน 2558 โดย World Economic Forum (WEF) อีกทั้งมีการขยายตัวของ Social Media อย่างก้าวกระโดด ประเทศไทยมีผู้ลงทะเบียนแอพลิเคชั่นไลน์กว่า 33 ล้านรายนับว่ามากเป็นลำดับ 2 ของโลกรองจากญี่ปุ่น และเฟสบุ๊ค 35 ล้านราย รัฐบาลเล็งเห็นถึงโอกาสและความท้าทายต่อกระแสดิจิทัลจึงได้จัดทำกรอบนโยบายและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งผ่านมติคณะรัฐมนตรีแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2015 ที่ผ่านมาซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาก่อนนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยจะมีการจัดตั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำกับดูแลงาน 5 ประเภทคือ 1) Hard Infrastructure เช่น National Broadband, Satellite และคลื่นความถี่, 2) Soft Infrastructure เช่นกฎหมาย มาตรฐาน และความปลอดภัย, 3) Service Infrastructure เช่น Service Platform, e-Government, e-Logistic, 4) Digital Economy Promotion เช่นกองทุนส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัล การพัฒนาต้นทุนมนุษย์, 5) Digital Society เช่น Digital Literacy, การลดความยากจน และ e-health และ 6) Digital Resource เช่น Data Center, Digital Library และการวัดและประเมินผล
สาขาการจัดการธุรกิจโทรคมนาคมและบรอดคาสติ้ง บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมตอบสนองต่อเทรนด์ดิจิทัลด้วยงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อาทิ Digital TV, Digital Transformation, Digital Organization, Digital Detox, Online Marketing, Digital Farming, 3G Readiness Index, Emergency Health Call Center, Mobile Commerce, Mobile Money, Cyber Warfare ฯลฯ การผลิตมหาบัณฑิตหลักสูตรปริญญาโท ที่มุ่งสู่ความเป็นมืออาชีพด้วยหลักสูตรเฉพาะทาง ซึ่งสามารถเลือกเรียนร่วมกับสาขาเฉพาะทางอื่นๆ เพื่อเสริมทักษะ คุณธรรม ความรู้ และเน็ตเวอร์คกิ้ง เช่น สาขาการจัดการโครงการ สาขาการจัดการวิศวกรรมการเงิน สาขาการจัดการองค์กร สาขาการจัดการนวัตกรรม และสาขาการจัดการอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนั้นยังมีผู้ทรงคุณวุฒิและหน่วยงานต่างๆ จากอุตสาหกรรมเข้ามาร่วมพัฒนานักศึกษาสู่ความเป็นมืออาชีพ
สำหรับปีการศึกษาใหม่ 2558 ที่จะเริ่มเดือนสิงหาคมนี้จะเริ่มเปิดสอนวิชา Digital Economy Management เป็นครั้งแรก ผู้สนใจเข้ามาศึกษาต่อสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเข้าศึกษาต่อได้ที่ www.gmi.kmutt.ac.th หรือโทร 02-470-9795, 9799 และ 081-444-1109 ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2558