กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ สสส.
ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรม “เสาร์สร้างสุข” ภายใต้ “SOOK Activity” ตอน “นิทานสร้างเด็กฉลาด” เพื่อเสริมสร้างจินตนาการให้กับเด็กๆ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ภายในงานจัดให้มีการเสวนาภายใต้หัวข้อ “นิทานสร้างสุข” โดยนักเล่านิทานระดับแถวหน้าของเมืองไทย รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ หรือ ป้ากุล ของเด็กๆ พร้อมด้วย 2 นักแสดงเด็กมากความสามารถ น้องเจมส์ จิรายุ ขุนรักษ์ และ น้องจีน่า พัตทรีญาภรณ์ บุญธุ่มรัตนา ที่มาร่วมเรียนรู้เทคนิคการเล่านิทานตลอดจนประดิษฐ์หุ่นมือ แบบง่ายๆ พร้อมทั้งยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุเหลือใช้ โดย พันเอกสิทธิโชค มุกเตียร์ ซึ่งมีเหล่าบรรดาคุณพ่อ คุณแม่ จูงมือลูกๆ มาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ หรือ ป้ากุล ได้กล่าวถึงความสำคัญของนิทาน กับการสร้างเด็กฉลาดว่า “การเล่านิทานเป็นการสร้างการเรียนรู้ สร้างจินตนาการ ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านอารมณ์จิตใจ ในขณะที่เด็กฟังนิทาน เด็กจะมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน ทำให้เด็กมีความสงบ สุขุมเยือกเย็น และมีสมาธิมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญนิทานยังช่วยพัฒนาทักษะทางด้านภาษา การฟัง พูด อ่านและเขียน ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญา นอกจากนี้การเล่านิทานยังช่วยให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย ซึ่งเป็นการพัฒนาทางด้านกล้ามเนื้อใหญ่ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของคนในครอบครัว ที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน”
ป้ากุลกล่าวต่อว่า “นิทานที่เล่าให้ลูกฟังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเลือก เป็นนิทานสั้นๆ ง่ายๆ จบเรื่องด้วยความสุข แทรกคุณธรรมคำสอนที่เข้าใจง่าย เช่น นิทานกลอนสั้น ๆ หรือคุณพ่อ คุณแม่อาจแต่งนิทานขึ้นมาใหม่ก็ได้ ลูกจะชอบฟังเสียงของคุณพ่อคุณแม่ เพราะเป็นเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตา ในการเล่านิทานที่จะสร้างความสนใจให้เด็กอยากฟังนิทานนั้น ควรเลือกใช้โทนเสียงตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมกับเลียนเสียงตัวละคร ในเรื่องเพื่อเพิ่มความสนุก เช่น เสียงสัตว์ เสียงฝนตก เสียงรถไฟ ฯลฯ และควรมีอุปกรณ์เสริมในการเล่านิทานเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ โดยใช้อุปกรณ์ง่ายๆ เช่น ใช้การพับกระดาษประกอบการเล่านิทาน เช่นเมื่อเล่าว่ามีภูเขาลูกหนึ่ง ก็พับกระดาษเป็นสามเหลี่ยม เด็กก็จะได้เรียนรู้ว่าภูเขามีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยม และได้เรียนรู้รูปทรงเรขาคณิตไปด้วยในตัว อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กๆ อยากที่จะพับกระดาษเป็นรูปทรงต่างๆ ด้วยตนเองบ้าง ช่วยให้เด็กพัฒนากล้ามเนื้อมือ และพัฒนาจินตนาการของเขาอีกด้วย”
นอกจากนี้ ป้ากุลยังฝากทิ้งท้ายว่า “อยากให้นิทานเป็นสื่อกลางที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใกล้ชิดกับลูกๆ ได้สนิทสนมกัน เพื่อเป็นแนวทางให้ลูกได้ติดคุณพ่อ คุณแม่ ติดหนังสือ ดีกว่า ที่จะไปติดเกมส์ หรือติดสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายแหล่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรยัดเยียดการเล่านิทานให้ลูกฟังมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ลูกต่อต้าน จนนิทานกลายเป็นเรื่องที่ไม่สนุก”
ด้านนักประดิษฐ์ของจากเศษวัสดุเหลือใช้ พันเอกสิทธิโชค มุกเตียร์ ก็แนะนำการประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุเหลือใช้อย่างง่ายๆ ที่ช่วยเสริมสร้างความฉลาดของเด็กว่า “ของเล่น เป็นสิ่งคัญของพัฒนาการในวัยเด็ก การเล่นที่ให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน สามารถกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งพ่อ แม่ ผู้ปกครอง สามารถนำเอาวัสดุเหลือใช้มาดัดแปลงเป็นของเล่นวิทยาศาสตร์ได้สารพัด เช่น ฮาร์ดดิสก์ที่ไม่ใช้แล้ว นำมารื้อ ถอด แยกชิ้นส่วน แล้วนำกลับมาใช้เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าประกอบเป็นของเล่น เช่น ตุ๊กตากลไก สามารถขยับได้ หรือนำมาดัดแปลงเป็นกระดิ่งไฟฟ้า รวมถึงนำมาดัดแปลงเป็นเครื่องปั่นไฟสุดหรรษา โดยการใช้มือหมุนเฟืองเพื่อให้ไฟสีสว่างขึ้นมา หรือเพื่อให้เพลงดังขึ้นมาจาก 2 มือของ พ่อ แม่ กับลูก ร่วมกัน ของเล่นเหล่านี้นอกจากจะเสริมสร้างจินตนาการและแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ทำให้เขาสนใจคิดค้นสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้แล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดมลภาวะให้กับโลกอีกด้วย”
ปิดท้ายที่ 2 นักแสดงเด็กมากความสามารถ น้องเจมส์ จิรายุ ขุนรักษ์ และ น้องจีน่า พัตทรีญาภรณ์ บุญธุ่มรัตนา ที่มาเล่าถึงความชอบในนิทานของตนเอง โดยน้องเจมส์เผยว่า “ตอนที่ผมยังเด็กกว่านี้ ผมมักจะชอบให้คุณแม่เล่านิทานให้ฟังบ่อยๆ เพราะคุณแม่เล่านิทานสนุก เหมือนผมได้ร่วมผจญภัยไปกับนิทานเรื่องที่คุณแม่เล่า ผมยังจดจำนิทานที่คุณแม่เล่าไปเล่าต่อให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียน เลยทำให้ผมเป็นคนกล้าแสดงออก และมีความรู้สามารถใช้ภาษาถูกต้องมากขึ้นครับ ยิ่งตอนนี้ผมสามารถอ่านนิทานได้ด้วยตัวเองแล้ว ผมยิ่งสนุกไปกับจินตนาการในโลกของนิทานครับ”
ส่วนทางด้าน น้องจีน่า เผยว่า “จีน่าชอบอ่านนิทานมากๆ ค่ะ เพราะนิทานจะมีคติสอนใจ บางเรื่องก็จะสอดแทรกคุณธรรม หรือบางเรื่องก็จะสอนความประพฤติที่ควรทำและไม่ควรทำ บางทีถ้าผู้ใหญ่เดินมาบอกเราว่าห้ามทำอย่างนั้นนะ ห้ามทำอย่างนี้ บางทีเราก็อาจไม่เชื่อ เพราะเราไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องห้าม แต่นิทานมีภาพแสดงให้เราเห็นผลลัพธ์ของการกระทำ เช่น ถ้าเป็นคนชอบโกหก ต่อไปจะไม่มีใครเชื่อ ไม่มีใครช่วยเหลือ เหมือนเช่นนิทานเด็กเลี้ยงแกะ”
ทั้งนี้ กิจกรรมเสาร์สร้างสุขยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกหลากหลาย ในทุกวันเสาร์ ที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซ.งามดูพลี กรุงเทพฯ โดยกิจกรรมไฮไลท์ประจำเดือนพฤษภาคม พบกับกิจกรรม “บริหารเงินสนุก ความสุขล้นกระเป๋าสตางค์” มาเพิ่มความฉลาดทางการเงินด้วยคอร์สการบริหารเงินส่วนบุคคล โดย ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร ประธานชมรมคนออมเงิน ที่จะมาถ่ายทอดเคล็ดลับการบริหารเงินอย่างง่ายๆ สามารถนำไปใช้ได้จริง พร้อมด้วยนักแสดงสาวใจแกร่ง บีม-วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ ผู้สามารถปลดหนี้กว่าสิบล้านในระยะเวลาอันสั้น ในวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม
ผู้สนใจร่วมกิจกรรมสามารถร่วมกิจกรรมได้ฟรี ด้วยการส่ง ชื่อ-นามสกุล อายุ ที่อยู่ และเบอร์โทร ระบุกิจกรรมที่สนใจมาที่ activity.thc@thaihealth.or.th หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 08 1731 8270 (09.00-17.00 น. จันทร์-เสาร์ เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์Line ID: thaihealth_centerรวมทั้งติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.thaihealthcenter.org