BJCHI เฮ!!! คว้างานบราซิล ดันงานในมือพุ่งกว่า 7 พันล้านบาท ลั่นยังมีโอกาสรับงานเพิ่มเติมอีกเพียบในอนาคต

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 11, 2015 11:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--IR network บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI) รุกคืบ! คว้างานจาก Joint Venture (JV) ที่มี Petrobras Netherlands B.V. ในประเทศบราซิลถือหุ้นใหญ่ มูลค่ามากกว่า 5 พันล้านบาท ดันปริมาณงานในมือ (Backlog) พุ่งกว่า 7 พันล้านบาท ด้านผู้บริหารหนุ่มไฟแรง “เซิง วู ลี” โชว์ศักยภาพความพร้อมทั้งในด้านเงินทุน ประสบการณ์ คุณภาพของงานและการส่งมอบงานตรงสเปค-ทันเวลา ชูจุดแข็งความสามารถในการผลิตภายในโรงงานของบริษัทช่วยลดต้นทุน ย่นเวลาการทำงาน พร้อมทั้งผลิตงานที่มีคุณภาพที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าเชื่อมั่นรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 15% แน่นอน นายเซิง วู ลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (BJCHI) ผู้ดำเนินธุรกิจวิศวกรรมด้านการรับจ้างผลิต และการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมตามแบบและขนาดที่ลูกค้ากำหนด เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามเซ็นสัญญารับงานใหม่ ซึ่งเป็นงานแปรรูปและประกอบโครงสร้างกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ ประเภท Floating Production Storage and Offloading สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ของบริษัทร่วมลงทุน (Joint Venture) ที่มี Petrobras Netherlands B.V. ในประเทศบราซิลถือหุ้นใหญ่ ชื่อโครงการ TUPI โดยมีมูลค่ามากกว่า 5 พันล้านบาท และมีระยะเวลาของโครงการประมาณ 18 เดือน นอกจากนี้ ถ้าลูกค้าพึงพอใจกับคุณภาพและบริการของโครงการนี้นั้น จะทำให้บริษัทมีโอกาสสูงที่จะสามารถรับงานลักษณะดังกล่าวเพิ่มเติมอีกกว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่างานจากโครงการดังกล่าวมีโอกาสเพิ่มขึ้นถึงระดับ 1 หมื่นล้านบาทในอนาคต ทั้งนี้ การคว้างานดังกล่าวส่งผลให้บริษัทมีปริมาณงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นกว่า 7 พันล้านบาท จากปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาส 1/2558 อยู่ที่มากกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ในปี 2558 นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลประมูลงานโครงการที่มีศักยภาพสูง (High Potential Project) อยู่อีกกว่า 5 พันล้านบาท “การรับงานแปรรูปและประกอบโครงสร้างกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ในครั้งนี้ เป็นงานที่บริษัทมีประสบการณ์มาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งส่งผลให้บริษัทนั้นมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งทีมงาน และเครื่องจักร เพื่อส่งมอบงานตามสเปคที่ลูกค้ากำหนด และสามารถส่งมอบงานได้ตามเวลาที่ตกลงกันไว้ และจากปริมาณงานในมือที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้จะสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน” นายเซิง วู ลี กล่าว ทั้งนี้ บริษัทยังมีโรงงานและอุปกรณ์ในการผลิตที่ทันสมัย เช่น โรงชุบสังกะสี (Galvanizing Shop) โรงผลิตเหล็กตะแกรง (Grating Shop) โรงผลิตและประกอบคานเหล็กเพื่อใช้กับงานโครงสร้าง (Built-up Beam Shop) โรงพ่นขัดโลหะและพ่นสี (Blasting and Painting Shop) ที่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งทำให้บริษัทสามารถแปรรูปและประกอบโครงสร้างชิ้นส่วนขนาดใหญ่ได้ครบทุกขั้นตอนการผลิตภายในบริษัทเองทั้งหมด โดยนอกจากจะเป็นการประหยัดต้นทุน และได้ชิ้นงานตามสเปคที่ต้องการแล้ว ยังช่วยในการประหยัดระยะเวลาการทำงานซึ่งทำให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้นอีกด้วย “การที่บริษัทได้รับงานเพิ่มเติมจากประเทศบราซิลนั้น นอกจากส่งผลดีต่อการเติบโตของรายได้ของบริษัท แล้วนั้น ยังทำให้ผู้ให้บริการรับเหมาก่อสร้างในด้านอุตสาหกรรมหนักของไทยให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในชื่อเสียงและคุณภาพงานจากลูกค้าในต่างประเทศ อีกด้านหนึ่ง ยังคงส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยและทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดต่างประเทศ” นายเซิง วู ลี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ