กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง
แบรนด์ผู้ประกอบการโรงแรมยักษ์ใหญ่ที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในสหราชอาณาจักรอย่าง “พรีเมียร์ อินน์” เดินหน้าวางแผนขยายธุรกิจในประเทศไทยพร้อมประกาศเตรียมเปิดโรงแรมแรกในจังหวัดภูเก็ต คาดว่าจะพร้อมให้บริการในช่วงต้นปี 2560 โดยพรีเมียร์ อินน์ ภูเก็ต มีจำนวนห้องทั้งสิ้น 350 ห้อง ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งซึ่งรวมไปถึงหาดป่าตอง ศูนย์การค้าจังซีลอน และถนนอันคึกคักไปด้วยแสงสีเสียงยามค่ำคืนแห่งภูเก็ต โรงแรมดังกล่าวจะเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพอันเป็นเอกลักษณ์ตามมาตรฐานการบริการระดับชนะรางวัลในแบบพรีเมียร์ อินน์ ซึ่งมาพร้อมกับราคาที่ไม่แพง แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารที่เปิดตลอดทั้งวัน เดสติเนชั่นบาร์ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์ต่างๆ อยู่อย่างครบครัน และห้องประชุม ไว้คอยบริการผู้เข้าพักทั้งที่เป็นกลุ่มนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว
นายอิริค แวน เคอเลน รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจ พรีเมียร์ อินน์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “พรีเมียร์ อินน์ ภูเก็ต เป็นส่วนขยายเพิ่มเติมที่สำคัญต่อพอร์ตการลงทุนด้านโรงแรมในเอเชียที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และถือเป็นก้าวอันยิ่งใหญ่สำหรับแบรนด์พรีเมียร์ อินน์ เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าโรงแรมนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับภาคการบริการในภูเก็ต และจะกลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางที่ใส่ใจในเรื่องของความคุ้มค่าด้านราคา”
ในฐานะที่ภูเก็ตถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อนและสถานที่จัดงานประชุมต่างๆ ประจำภูมิภาค จึงทำให้ภูเก็ตกลายเป็นอีกหนึ่งตลาดที่พรีเมียร์ อินน์ มุ่งเน้น โดยพรีเมียร์ อินน์ ภูเก็ต จะเป็นโรงแรมแรกของแบรนด์บนเกาะภูเก็ต รวมทั้งยังมีแผนจับมือกับบริษัท รายาบุรีกรุ๊ป จำกัด เปิดโรงแรมอีก 5 แห่ง มีจำนวนห้องพักรวมถึง 1,250 ห้องภายในปี 2563 นี้ โรงแรมพรีเมียร์ อินน์ แห่งแรกในไทยตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ บนถนนสุขุมวิท ซอย 11 ซึ่งมีห้องพักจำนวน 224 ห้อง พร้อมเปิดให้บริการช่วงกลางปี 2559 นอกจากนี้ พรีเมียร์ อินน์ ยังมีโครงการขยายตัวไปยังจังหวัดหลักอื่นๆ ในไทย ซึ่งรวมไปถึงเชียงใหม่ หัวหิน เกาะสมุย และพัทยา
พรีเมียร์ อินน์ เป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีโรงแรมกว่า 670 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงโรงแรม 5 แห่งในตะวันออกกลางและ 3 แห่งในอินเดีย โดยทวีปเอเชียถือเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการขยายธุรกิจ โดยได้มีการตั้งเป้าเพิ่มจำนวนห้องพักอีกประมาณ 10,000 ห้องในอินเดีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไทย และตะวันออกกลางภายในปี 2563 ทั่วเมืองสำคัญต่างๆ อย่าง บาหลี กรุงเทพฯ เชนไช โดฮา ดูไบ กัว จาการ์ตา เจดดาห์ มุมไบ มัสแคท ภูเก็ต สิงคโปร์ สุราบายา และยอร์คจาการ์ตา