ก.ล.ต.ไฟเขียวหุ้น “ออริจิ้น” เข้า SET ประมาณไตรมาส 2-3 ของปีนี้ เสนอขายหุ้น IPO 180 ล้านหุ้น-ราคาพาร์ 0.50 บาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 12, 2015 14:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากสำนักงาน ก.ล.ต. ในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนของบริษัท จำนวน 180 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.50 บาท ด้านผู้บริหาร “พีระพงศ์ จรูญเอก ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยเม็ดเงินที่ได้จะนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ด้านที่ปรึกษาทางการเงินคาดเข้าเทรดได้ในช่วงประมาณไตรมาส 2-3 ของปีนี้ ชูผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการนำหุ้น บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้ขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต.ได้อนุญาตอย่างเป็นทางการซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในช่วงประมาณไตรมาส 2-3 ของปี 2558 นี้ ทั้งนี้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นแบบคำเสนอขายหลักทรัพย์ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บุกเบิกโครงการคอนโดมิเนียมรายแรกย่านสถานีรถไฟฟ้า BTSแบริ่ง จังหวัดสมุทรปราการจนประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้า จนปัจจุบันมีโครงการในมือ 24 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 15,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องโดยในปี 2555 มีรายได้รวม 192.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 28.6 ล้านบาท ปี 2556 มีรายได้รวม 418.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 64.2 ล้านบาท และปี 2557 มีรายได้รวม 559.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 70.3 ล้านบาท “ออริจิ้นมีแผนที่จะใช้เงินจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯครั้งนี้ ในการขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม โดยพิจารณาคัดเลือกการพัฒนาโครงการบนทําเลที่มีแนวโน้มการเติบโตของความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งในแถบรอบนอกของกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งแนวเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งออริจิ้นจะทําการศึกษาความเป็นไปได้ก่อนการพัฒนาโครงการ และพิจารณาอัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ ซึ่งเชื่อว่าผลการดำเนินงานจะทยอยเติบโตเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอย่างต่อเนื่อง” ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียมตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2552 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีการออกแบบโครงการที่มีเอกลักษณ์ (Uniqueness Project Design) ฟังชั่นการใช้งานห้องชุดที่คุ้มค่า (Best Function of Unit Plan Design) และเป็นเลิศในด้านบริการหลังการขาย (After Sale Service Excellent) โดยบริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมีเนียมที่เป็นผู้บุกเบิกโครงการคอนโดมีเนียมบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง จังหวัดสมุทรปราการ และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้มีการพัฒนาโครงการคอนโดมีเนียมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีบริษัทย่อยจํานวน 2 บริษัท คือ บริษัท ออริจิ้น วัน จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริษัท คอนโด เอเจนซี่ แอนด์ เมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บริการจัดหาผู้เช่าห้องชุด และบริการรับจ้างบริหารโครงการนิติบุคคลอาคารชุดให้แก่โครงการที่บริษัทฯ เป็นผู้พัฒนาเท่านั้น ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 บริษัทฯ มีโครงการคอนโดมิเนียมที่ปิดโครงการแล้ว จํานวน 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 198 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายจํานวน 16 โครงการ โดยแบ่งเป็น โครงการที่พัฒนาแล้วเสร็จจํานวน 6โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,880 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จํานวน 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,220 ล้านบาท และโครงการในอนาคต จํานวน 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,590 ล้านบาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้ในการพัฒนาโครงการของบริษัทฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และในอนาคต รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ40 ของกำไรสุทธิ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ