กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--IR network
บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) ประเดิมงบไตรมาส 1/58 ไม่ทำให้ผิดหวัง กำไรสุทธิอยู่ที่ 272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.52 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 210 ล้านบาท ส่วนรายได้ไม่แพ้กันพุ่งแตะ 3,541 ล้านบาท เหตุดีมานด์ใช้ถ่านหินเพิ่ม หนุนออเดอร์ไม่ขาดมือ “ขจรพงศ์ คำดี” เผยปีนี้เน้นรุกตลาดซื้อขายภายในประเทศจีนมากขึ้น หนุนธุรกิจบริษัทเติบโตอย่างมีศักยภาพ
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/2558 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 มีกำไรสุทธิ 272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29.52% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2557 ที่มีกำไรสุทธิ 210 ล้านบาท โดยสาเหตุมาจากบริษัทมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3,541 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,649 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 33.67% เนื่องจากบริษัทประสบความสำเร็จในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตามความต้องการถ่านหินของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เขากล่าวต่อว่า บริษัทยังคงเดินหน้าผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยปีนี้จะหันมาเน้นการซื้อขายถ่านหินภายในประเทศจีนมากยิ่งขึ้น ภายหลังจากที่ได้ตั้งบริษัทย่อยเพื่อทำธุรกิจซื้อขายถ่านหินในประเทศจีนไปก่อนหน้านี้ โดยบริษัทฯมีแหล่งซัพพลายถ่านหินใหม่ภายในประเทศจีน จำหน่ายตรงและขนส่งถ่านหินตรงไปยังโรงไฟฟ้าทั่วประเทศจีน ทั้งทางเรือ ทางบก และทางรถไฟ เนื่องจากเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มดังกล่าวยังจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้ถ่านหินของจีนที่อยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านตัน ขณะที่ในปีที่ผ่านมา EARTH จำหน่ายถ่านหินให้จีนเพียง 4 ล้านตันเท่านั้น ซึ่งหากแผนธุรกิจดังกล่าวประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ เชื่อว่าจะส่งผลทำให้ธุรกิจของบริษัทขยายตัวได้มากกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน
“EARTH ยังคงทำในสิ่งที่ชำนาญ คือ ถ่านหินและขยายธุรกิจไปต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียให้ครบ 5 ประเทศ ตามแผนที่ได้วางไว้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทซื้อขายถ่านหินกับต่างประเทศประมาณ 70% โดยฐานลูกค้ารายใหญ่คือ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ อีก 30% ขายในประเทศไทย โดยบริษัทมีโอกาสอีกมากในการจัดจำหน่ายถ่านหินให้กับคู่ค้าทางธุรกิจ เนื่องจากคาดว่าผู้บริโภคถ่านหินรายใหญ่ในภูมิภาคทั้งประเทศจีนและอินเดียจะมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในอนาคต โดยเชื่อว่าในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ผลประกอบการของบริษัท จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรกได้ จากการขยายเพิ่มซัพพลายเออร์ในประเทศจีนและขายให้กับโรงไฟฟ้ารายใหม่หลายแห่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้อีกมหาศาล และมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และยังคงเป้าปริมาณการจัดจำหน่ายถ่านหินปีนี้ไว้ที่ 10 ล้านตัน” นายขจรพงศ์ กล่าวในที่สุด