กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--ปภ.
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยถึง สถานการณ์น้ำท่วมจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในภาคใต้ว่า ได้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ทำให้เกิดน้ำท่วมใน 2 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ 7 อำเภอ 44 ตำบล 249 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ราษฎรเดือดร้อน 10,485 คน 3,149 ครัวเรือน ทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ประกอบด้วย ถนน 355 สาย สะพาน 8 แห่ง ฝาย 13 แห่ง บ่อน้ำ 65 บ่อ พื้นที่การเกษตร 25,000 ไร่ บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 252 หลัง บ่อปลา กุ้ง 81 แห่ง ปศุสัตว์ 87 ตัว ท่อระบายน้ำ 37 แห่ง มูลค่าความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ
จังหวัดชุมพร มีพื้นที่ประสบภัย 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชุมพร ปะทิว ท่าแซะ และสวี ใน 35 ตำบล 228 หมู่บ้าน เกิดจากฝนตกหนักมากในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี พื้นที่ อ.ท่าแซะ ทำให้ปริมาณน้ำในคลองท่าแซะ สูงเอ่อล้นตลิ่งไหลบ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และถนนเพชรเกษม ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50 — 0.70 เมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ขณะนี้น้ำลดระดับลงแล้ว ทำให้การคมนาคมลงสู่ภาคใต้ใช้ได้ตามปกติ ศูนย์ป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชุมพร ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเรือท้องแบน อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยแล้ว พร้อมทั้งได้นำถุงยังชีพกว่า 5,000 ชุด ข้าวกล่อง 2,100 กล่อง และน้ำดื่มอีก 3,000 ขวด ไปแจกจ่ายช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ ได้มีการผันน้ำ เพื่อให้น้ำจากคลองบางแก้วไหลลงสู่ทะเล จึงช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจของเทศบาลเมืองชุมพรได้
ด้านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ประสบภัย รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางสะพาน หัวหิน และปราณบุรี ใน 9 ตำบล 21 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,200 คน 500 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 245 หลัง ถนนเสียหาย 24 สาย ฝาย 1 แห่ง พื้นที่การเกษตร 15,000 ไร่ โดยเฉพาะในเขตอำเภอหัวหิน ได้เกิดน้ำป่าจากน้ำตก ป่าละอูไหลหลาก ท่วมผิวจราจรถนนเพชรเกษม ระดับน้ำสูง 0.50 — 0.80 เมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และมีน้ำท่วมผิวจราจรในเขตเทศบาลเมืองหัวหินสูงประมาณ 0.30 เมตร ขณะนี้ระดับน้ำลดลงแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากน้ำทะเลหนุนทำให้น้ำไหลลงสู่ทะเลช้าลงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เรือท้องแบน ไปช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว พร้อมทั้งได้ระดมเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง คาดใน 2 — 3 วัน หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ สุดท้ายนี้ หากพื้นที่ใดประสบสาธารณภัย สามารถขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วน ปภ. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป--จบ--