กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล. โกลเบล็ก มองหุ้นไทย แกว่งตัวในกรอบ 1,480 – 1,500 จุด เชื่อราคาพลังงานพุ่ง ช่วยหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่ลงลึก แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และตัวเลขการส่งออกที่เติบโตต่ำกว่าคาดกดดันภาวะการลงทุน แนะกลยุทธ์การลงทุน “ซื้อ” ลุ้นรีบาวด์ หุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นผลดำเนินงาน Q1/58 ออกมาดีมีกำไร TASCO - SMT - BCP – PTT - PTTEP - TOP ส่วนกลยุทธ์ลงทุนทองแนะเปิดสถานะ LONG GOLD FUTURES ลุ้นทองมีโอกาสเด้งขึ้น ให้แนวรับ 1,170 และต้าน 1,215 เหรียญต่อทรอยออนซ์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นเหนือ 60 เหรียญต่อบาร์เรล ประกอบกับกลุ่ม OPEC ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปีนี้เพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรล จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และจะเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้แกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,480 – 1,500 จุด ซึ่งขณะนี้ สัญญาณทางเทคนิคตลาดหุ้นปรับตัวลงมาใกล้แนวรับสำคัญ 1,460 – 1,480 จุด
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่กดดันภาวะการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อดัชนีตลาดหุ้น ทั้งภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว เนื่องจากการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกลดลง ประกอบกับปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ ที่ล่าสุดกรีซเผยว่าอาจเผชิญวิกฤตสภาพคล่องในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพราะครบกำหนดชำระหนี้ 1,500 ล้านยูโรแก่ IMF และในปลายเดือนพ.ค.กรีซต้องจ่ายเงินเดือนและบำนาญข้าราชการกรีซราว 2,500 ล้านยูโร จึงมีความเสี่ยงที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้และออกจากสมาชิกยูโรโซน หากการเจรจาปฏิรูปเศรษฐกิจกับกลุ่มเจ้าหนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเพื่อได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน
นอกจากนี้ ยังแนะจับตากการแถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2558 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยจะเป็นตัวชี้วัดว่านโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาลเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้ในอนาคต ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่ยังคงต้องติดตามในสัปดาห์นี้ อาทิ สหรัฐแถลงตัวเลขผู้ว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และแถลงดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมเดือน พ.ค. ขณะที่ญี่ปุ่น เตรียมปรับทบทวนยอดค้าปลีกเดือน มี.ค. และแถลงผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย.
ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด แนะนำกลยุทธ์การลงทุน รอจังหวะเข้าซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยเน้นหุ้นรายตัวที่คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/2558 จะประกาศออกมาดี เช่น TASCO SMT BCP และเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น เช่น PTT PTTEP TOP
ด้านนักวิเคราะห์ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนในทองคำ ประเมินแนวโน้มการลงทุนทองคำในสัปดาห์นี้ว่า ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มของการพักฐาน เพื่อรอขึ้นรอบใหม่ หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนว่า ราคาหุ้นที่ปรับสูงในขณะนี้จะทำให้เกิดอันตราย แต่ความเสี่ยงในระบบการเงินของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ และอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งอาจดีดตัวขึ้นทันทีที่เฟดปรับนโยบายกลับสู่ภาวะปกติ จะทำให้เกิดผลกระทบทั่วระบบการเงินของสหรัฐ
นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.25% สู่ระดับ 5.1% และลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปีลง 0.25% สู่ระดับ 2.25% ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่เดือนพ.ย. 2557 สะท้อนให้เห็นว่าธนาคารกลางจีนพยายามจัดการกับแรงกดดันที่สูงขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และทำให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวลดลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมที่อ่อนแอส่งผลให้นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปลดแรงกดดันต่อทองคำ
อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาทองคำจะมีแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซโดยการเจรจาระหว่างกรีซกับรมว.คลังยูโรโซนในการแก้ไขปัญหาหนี้ไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ฐานะการคลังของประเทศที่ย่ำแย่ส่งผลให้ต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐบาลภายในประเทศ ซึ่งจะดึงดูดให้มีแรงซิ้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น
สำหรับประเด็นที่ยังคงต้องจับตา อาทิ ปัจจัย เรื่องตัวเลขผู้ว่างงานของสหรัฐที่จะแถลงครั้งแรกรายสัปดาห์ รวมถึงการคาดการณ์ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีประเด็นดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมเดือน พ.ค.ของสหรัฐ และ การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือน เม.ย.ของสหรัฐ ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่จะสร้างผลกระทบต่อราคาทองในช่วงต่อไป
ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนทองคำ โดย แนะนำเปิดสถานะ LONG GOLD FUTURES ตามแนวโน้มราคาทองโลกที่มีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยให้แนวรับ 1,170 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,215 เหรียญต่อทรอยออนซ์