Fed Fund Rate Futures ปรับตัวสูงขึ้น แนะนำให้ซื้อขายด้วยความระมัดระวัง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 14, 2015 13:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น สัปดาห์ที่ผ่านมา ( 4 พ.ค. – 8 พ.ค.) ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.15 USDต่อออนซ์ (+0.78%) โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 1,177-1,199 เหรียญ ในสัปดาห์ที่ผ่านราคายังคง trading อยู่ในกรอบต่อเนื่องไปอีกหนึ่งสัปดาห์ ถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์จะปรับตัวลดลงตามที่ได้คาดการณ์ไว้ แต่ปัจจัยดังกล่าวไม่ได้ส่งผลบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมาออกมาใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตลาดซื้อขายสัญญาดอกเบี้ยล่วงหน้า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด(Fed Fund Rate) ยังคงปรับตัวสูงขึ้น แสดงถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่คาดการณ์ถึงการปรับตัวขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งสอดคล้องกับที่นายเดนนิส ล็อกฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าได้ออกมาให้ความเห็นไว้ว่า การที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนกันยายนนั้นสมเหตุสมผล ซึ่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นจะเป็นผลลบต่อราคาทองคำในระยะยาวทำให้นักลงทุนในตลาดยังคงซื้อขายด้วยความระมัดระวัง กองทุน SPDR และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้ายังคงลดสถานะซื้อลงมา สำหรับแนวโน้มระยะสั้นยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แนะนำนักลงทุน trading ในกรอบ SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (4 พ.ค. - 8 พ.ค.) ขายทองคำออกมา 13.43 ตัน ทำให้มีสถานะถือทองคำเมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ทั้งสิ้น 728.32 ตัน โดยวันจันทร์ที่ผ่านมากองทุน SPDR ไม่ได้ซื้อไม่ได้ขาย ทำให้ปริมาณการถือครองทองคำสุทธิอยู่ที่ 728.32 ตันเท่าเดิม ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา SPDR ซื้อทองคำสุทธิทั้งสิ้น 4.51 ตัน ในขณะที่เดือนมีนาคม SPDR ขายทองคำสุทธิทั้งสิ้น 34.01 ตัน จากรายการการถือครองทองคำของ SPDR จะเห็นว่ากองทุน SPDR ขายทองคำออกมามากที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ จึงมองว่าการขายของกองทุน SPDR แสดงถึง sentiment เชิงลบของราคาทองคำ รายงานการถือครองสถานะสัญญาล่วงหน้าทองคำในตลาด COMEX รายสัปดาห์ สิ้นสุด 5 พ.ค. พบว่า มีสถานะคงค้าง(Open Interest) 399,988 สัญญา ลดลง 3,587 สัญญา โดยสถานะซื้อสุทธิของนักลงทุนกลุ่ม Non-Commercial ลดลง 28,817 สัญญา เป็น 72,440 สัญญา ส่วนสถานะขายสุทธิของนักลงทุนกลุ่ม Commercial ลดลง 32,710 สัญญา มาอยู่ที่ 74,162 สัญญา จากรายงานการถือครองสถานะสัญญาล่วงหน้าจะเห็นว่านักลงทุนในกลุ่ม Non-Commercial ขายทองคำออกมาในปริมาณที่มาก ซึ่งเป็นปัจจัยลบที่กดดันราคาทองคำในระยะนี้ ประเด็นที่ต้องติดตามในรอบสัปดาห์ ได้แก่ รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(ECB) การประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของยูโรโซน ค่าเงินดอลลาร์ ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันอังคาร ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดเล็ก เดือน เม.ย., จำนวนงานที่เปิดรับ เดือน มี.ค., งบดุลของธนาคารกลางสหรัฐ วันพุธ ยอดค้าปลีก(ไม่รวมยอดขายยานพาหนะ) เดือน เม.ย., ยอดค้าปลีก เดือน เม.ย., ดัชนีราคาสินค้านำเข้า เดือน เม.ย., ยอด สต๊อกสินค้าในภาคธุรกิจ เดือน มี.ค., ยอดสต็อกน้ำมัน รายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือน เม.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต(ไม่รวมราคาอาหาร, พลังงาน และการค้า) เดือน เม.ย., จำนวนผู้ ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์ วันศุกร์ ดัชนีกิจกรรมภาคการผลิตในเขตนิวยอร์ค เดือน พ.ค., ผลผลิตในภาคอุตสาหกรรม เดือน เม.ย., อัตราการใช้กำลังการผลิต เดือน เม.ย., ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ค., ผลสำรวจคาดการณ์เงินเฟ้อในอีก 12 เดือนข้างหน้า, ยอดการลงทุนสุทธิ เดือน มี.ค. Classic Gold Group ผู้ที่ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในทองคำอย่างครบวงจรมายาวนาน พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่การตลาด และนักวิจัยที่มีประสบการณ์ พร้อมที่จะให้คำปรึกษา และเพิ่มโอกาสในการลงทุน ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2618-0808 หรือทาง www.classicgoldfutures.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ