กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
สถาบันสิ่งทอฯ เร่งสร้างชื่อผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในต่างแดน พร้อมรุกเพิ่มช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการ ส่งแบรนด์ LAWA@THTI คอลเลคชั่นใหม่ 30 ชุด ลุย Thailand Week 2015 JAKARTA เจาะตลาดแฟชั่นมุสลิมอินโดฯ หวังเป็นฐานกระจายผลิตภัณฑ์สู่กลุ่มประเทศอาเซียน
สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมพัฒนาสิ่งทอ สานต่อผลสำเร็จโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่ระยะที่ 3 ผลักดันผู้ประกอบการนำองค์ความรู้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต้นแบบภายใต้แบรนด์ Lawa@THTI ด้วยแนวคิด Co-Design ดึง 3 นักออกแบบระดับแนวหน้า 3 ประเทศ ไทย-มาเลเซีย-อินโดนีเซีย ในปีนี้มีการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น 3 คอลเลคชั่น ได้แก่ คอลเลคชั่น “Graphic Architecture water colour” โดย นักออกแบบชาวไทย, คอลเลคชั่น “Light & Shadow” โดยนักออกแบบชาวมาเลเซีย และ คอลเลคชั่น “Exotic Orchild Rain Forest” โดยนักออกแบบชาวอินโดนีเซีย ซึ่งทั้ง 3 คอลเลคชั่นจะมีผลิตภัณฑ์ คอลเลคชั่นละ 10 ชุด รวมทั้งสิ้น 30 ชุด โดยการร่วมสร้างสรรค์งานแฟชั่นมุสลิม ภายใต้โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระยะที่ 3 โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักปลัดงานกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งเป้ายกระดับขีดความสามารถจากชุมชนสู่เวทีอาเซียน พร้อมประเดิมร่วมงานใหญ่ในต่างแดน Thailand Week 2015 JAKARTA ระหว่างวันที่ 6-10 พฤษภาคม 2558 ณ ศูนย์การค้า Emporium Pluit Mall กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของสถาบันฯ ในปี 2558 นอกจากจะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิม 5 จังหวัดภายแดนภาคใต้แล้ว ทางสถาบันฯ ยังคงผลักดันและต่อยอดการสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์สู่เชิงพาณิชย์ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม จึงขยายผลให้ผลิตภัณฑ์ก้าวเข้าสู่ตลาดระดับสากลและเป็นที่รู้จักในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มมากขึ้น ด้วยการนำผู้ประกอบการจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมออกงาน BIFF & BIL ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา นับเป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติที่มีผู้เข้าร่วมงานมาจากหลายประเทศทั่วโลก และเป็นอีกหนึ่งช่องทางของผู้ประกอบการสิ่งทอภาคใต้ที่จะได้พบปะกับผู้ซื้อ เกิดการเจรจาธุรกิจระหว่างกัน ถือเป็นการยกระดับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สู่ระดับนานาชาติมากขึ้น อีกทั้งทางสถาบันฯยังสานต่อความสำเร็จด้วยการนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน Thailand Week 2015 ที่จัดขึ้น ณ กรุงจากาต้า ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 6-10 พฤศภาคม 2558 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้แสวงหาหาช่องทางการตลาดใหม่ๆ และยังได้สัมผัสกับผู้ซื้อในภูมิภาคที่มีประชากรมุสลิมอาศัยอยู่เป็นหลัก โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซียที่มีประชากรมุสลิมประมาณกว่า 218.68 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 248.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 88 ของประชากรทั้งหมดในประเทศอินโดนีเซีย
นางสุทธินีย์ เปิดเผยถึงผลิตภัณฑ์แบรนด์ “LAWA@THTI คอลเลคชั่นใหม่ ทั้ง 30 ชุด” ด้วยว่า สถาบันยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับผู้ประกอบการสิ่งทอ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมยกระดับการพัฒนาแฟชั่นมุสลิมในคอนเซ็ปต์ สวย ดี มีคุณภาพ สู่สากล ภายใต้แนวคิด "Co-Design" หลอมรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมในภูมิภาคอาเซียนเข้าด้วยกัน โดยดึง 3 นักออกแบบชื่อดังจาก 3 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน คือ
1. นักออกแบบจากประเทศไทย นายวชิรวิชญ์ อัครสันติสุข ที่ถูกวางตัวให้เป็นหัวหน้าทีมสร้างสรรค์แฟชั่นมุสลิมแบรนด์ LAWA@THTI คอลเล็กชั่นใหม่ และยังเป็นนักออกแบบคนไทยระดับแนวหน้าที่ชนะเลิศรางวัลยอดเยี่ยมจากเวทีประกวดแฟชั่นระดับโลก MANGO Fashion Awards ณ ประเทศสเปน ปี 2012 จนสามารถสร้างการยอมรับในระดับนานาชาติ
2. นักออกแบบจากประเทศมาเลเซีย Mr.Eric Choong หนึ่งในสิบสุดยอดดีไซน์เนอร์ชื่อดังจากประเทศมาเลเซีย มีจุดเด่นด้านการดีไซน์เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยสีสัน ลูกเล่น และผสานอย่างลงตัวกับการตัดเย็บที่ยังคงใช้เทคนิคแบบดั้งเดิม
3. Mr.Oka Diputra อีกหนึ่งดีไซเนอร์ที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดย Oka เป็นสุดยอดดีไซน์เนอร์จากประเทศอินโดนีเซีย มีความชำนาญในการนำผ้าพื้นเมืองของบาหลี นั่นคือ ผ้าบาติก โดยนำมาประยุกต์ใช้กับผ้าพื้นเมืองของประเทศต่างๆ ในอาเซียน มีจุดเด่นที่น่าสนใจคือ การออกแบบเสื้อผ้าที่มีลูกเล่นมากมาย เน้นการสวมใสได้หลายรูปแบบ
ซึ่งทั้งสามดีไซน์เนอร์พร้อมด้วยผู้ประกอบการร่วมกันสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายมุสลิมทั้งบุรุษและสตรีรวมกัน 3 คอลเล็กชั่น จำนวน 30 ชุด โดยแบ่งเป็นภายใต้แนวคิด เน้นการออกแบบที่มีการผสมกลมกลืนระหว่างแนวคิดการออกแบบกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมในภูมิภาคอาเซียน สร้างความแปลกใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ พร้อมนำออกแสดงและจำหน่ายในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ รวมทั้งงาน Thailand Week 2015 ที่จัดขึ้น ในครั้งนี้ และมุ่งหวังว่าในปี 2558 สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในตลาดอาเซียนได้อย่างเป็นรูปธรรม นางสุทธินีย์ กล่าวทิ้งท้าย