กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ. ยูเอซี โกลบอล หรือ UAC เผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2558 บริษัทฯ มีรายได้รวม 250 ล้านบาท ลดลง 11%จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2.45 ล้านบาท ด้าน “ ชัชพล ประสพโชค ” กรรมการผู้จัดการ มั่นใจพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจด้านพลังงานทดแทน-เคมีภัณฑ์แบบเชิงรุก หนุนรายได้ปี 58 โตตามเป้า 1,500 ล้านบาท
นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 1/2558 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 250 ล้านบาท ลดลง 11.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 282 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 2.45 ล้านบาท
“ ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะกำไรขั้นต้นในไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่ 11.5% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 9.7% เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) ที่สุโขทัยก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มดำเนินการผลิต จึงทำให้ยังการรับรู้รายได้ยังไม่เต็มที่ และโครงการไบโอก๊าซจากพืชพลังงานก็ยังมีความล่าช้าอยู่ อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายทางการเงินในเรื่องการควบรวมกิจการในไตรมาสแรกสูงด้วย ” นายชัชพล กล่าว
กรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) กล่าวเพิ่มว่า ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าการลงทุนด้านพลังงานทดแทน เพราะเล็งเห็นว่าธุรกิจด้านพลังงานทดแทนในอนาคตมีการเติบโตที่ดีตามนโยบายของ ภาครัฐที่ให้ความชัดเจนในการให้การส่งเสริมด้านพลังงานทดแทนเพื่อความยั่งยืน ซึ่งน่าจะเริ่มพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ได้ ภายในไตรมาส 3 นี้ หลังจากนโยบายภาครัฐชัดเจน
อีกทั้งการที่บริษัทฯเดินหน้าขยายธุรกิจด้านเคมีภัณฑ์หลังจากที่มีการควบรวมกิจการกับทาง APC แล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2558 บริษัทฯ จะรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นทันที โดยได้มีการดึงมืออาชีพในธุรกิจนี้เข้ามาเสริมทีมเรียบร้อยแล้ว และมีเป้าหมายจะขยายตลาดไปยัง ประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมลาเท็กซ์อีมัลชั่นและการผลิตเคมีภัณฑ์อื่น ๆ ด้วย
ดังนั้นจึงมั่นใจว่าเป้ารายได้ในปี 2558 จะเติบโตได้ตามที่ตั้งไว้ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการรับรู้รายได้ของ บริษัท ยูเอซี แอ็ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด หรือ UAPC เข้ามากว่า 300 ล้านบาทในปีนี้ และโรงงานที่ จ.เชียงใหม่, สุโขทัย,ขอนแก่น และโซล่ารู๊ฟ จะเดินหน้าผลิตได้เต็มที่