นวัตกรรม มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับยุคที่เน้นแพลตฟอร์ม

ข่าวเทคโนโลยี Thursday March 3, 2005 11:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
เครก บาร์เรตต์ ประธาน
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร อินเทล คอร์ปอเรชั่น ได้กล่าวถึงรายละเอียดด้านเทคโนโลยีและนโยบายสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมก้าวต่อไปรวมทั้งผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ตามมาด้วย ทั้งนี้ บาร์เรตต์ กล่าวว่านับเป็นเวลา 40 ปีแล้วหลังจากที่ กอร์ดอน มัวร์ ระบุว่า จำนวนทรานซิสเตอร์ในตัวชิปจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุกๆ สองปี และกฎดังกล่าวก็ยังเป็นจริงจนถึงทุกวันนี้ และถ้านำกฎนี้ไปผสานกับเทคโนโลยีและคุณสมบัติใหม่ๆ ตั้งแต่มัลติคอร์โปรเซสเซอร์ไปจนถึงนวัตกรรมแพลตฟอร์มด้วยแล้ว จะช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ชุมชนนักพัฒนาและช่วยให้อุตสาหกรรมเติบโตขึ้น
บาร์เรตต์ กล่าวว่า "เราใช้ กฎของมัวร์ เพื่อผลักดันให้เกิดการผสานระบบประมวลผลและระบบสื่อสารเข้าด้วยกัน การที่อินเทลยังคงยึดถือ กฎของมัวร์ มาโดยตลอด ทำให้เราสามารถสร้างแพลตฟอร์มที่มีคุณสมบัติต่างๆ ครบถ้วนสำหรับผู้ใช้เทคโนโลยี ดังนั้น การนำเอาศักยภาพของคุณสมบัติเหล่านี้มาใช้อย่างเต็มที่ ตลอดจนการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องและความร่วมมือจากอุตสาหกรรมจึงถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก"
การที่อินเทลทำงานร่วมกับชุมชนนักพัฒนา ลูกค้า และฝ่ายอื่นๆ ทำให้บริษัทสามารถสร้างแพลตฟอร์มที่รวมเอาองค์ประกอบต่างๆ เข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี โดยที่องค์ประกอบเหล่านั้น ได้แก่ ไมโครโปรเซสเซอร์ ชิปเซ็ต ซิลิกอนอุปกรณ์สื่อสาร ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยีอื่นๆ
อินเทลพัฒนาระบบขึ้นใหม่เพื่อให้ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว จนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้บริโภคทั้งที่เป็นนักธุรกิจและผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้เทคโนโลยีได้หลายรูปแบบวิธีเพื่อสนองตอบต่อความต้องการใหม่ๆ ของตนได้อย่างเต็มที่ อินเทล เซนทริโน โมบายล์ เทคโนโลยี เป็นแพลตฟอร์มแรกของอินเทลที่เปิดตัวในปี 2546 โดยที่แพลตฟอร์มนี้ได้นำเอาคุณสมบัติและวิธีการใหม่ๆ มาช่วยในการประมวลผลสำหรับการใช้งานแบบโมบายล์ไร้สายเพื่อสานต่อวิสัยทัศน์การประมวลผลแบบทุกที่ทุกเวลา
บาร์เรตต์ กล่าวว่า “อินเทลกำลังขยายความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของบริษัทในรูปแบบแพลตฟอร์มให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่มีความต้องการต่างกันได้อย่างทั่วถึงไม่ว่าจะเป็น ดิจิตอลโฮม ดิจิตอลออฟฟิศ องค์กร และการใช้งานด้านสาธารณสุข รวมถึงความต้องการด้านการทำงานแบบไร้สายของทุกประเทศทั่วโลกได้ ปัจจุบันความต้องการของผู้ใช้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การประมวลผลแบบมัลติคอร์และความ
สามารถในการรองรับการทำงานของผู้ใช้หลายๆ คนในคราวเดียวกัน และการทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันจึงเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น เทคโนโลยีมัลติคอร์ช่วยสร้างโอกาสที่มีความสำคัญอย่างมากต่อชุมชนนักพัฒนา เทคโนโลยีชนิดนี้ถือเป็นรากฐานสำหรับนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ที่แทบจะไร้ซึ่งข้อจำกัดใดๆ ในการสนองตอบต่อการใช้อุปกรณ์ประมวลผลและสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้คนได้”
การที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างสมบูรณ์นั้น ไม่อาจครอบคลุมเพียงแค่การพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังต้องทำให้ระบบรักษาความปลอดภัย เสถียรภาพ ความสามารถด้านการจัดการ และองค์ประกอบอื่นๆ ของระบบประมวลผลและระบบสื่อสารดีขึ้นด้วย สำหรับเทคโนโลยีที่อินเทลที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติเหล่านี้ซึ่งมีการเปิดตัวออกมาแล้ว ได้แก่ เทคโนโลยีไฮเปอร์-เธรดดิ้ง เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ชื่อ LaGrande และ ระบบเวอร์ชวลไลเซชัน เป็นต้น
นอกจากนี้ บาร์เรตต์ ยังได้กล่าวเน้นถึงเทคโนโลยีใหม่ที่ชื่อ Intel I/O Acceleration Technology ซึ่งอินเทลเตรียมที่จะใส่ไว้ในแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ในอนาคตอีกด้วย อินเทลพัฒนาเทคโนโลยีนี้ขึ้นเพื่อช่วยให้การสื่อสารกันระหว่างเซิร์ฟเวอร์และแอพพลิเคชั่นในระบบเครือข่ายดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ระบบสามารถรองรับความต้องการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่เพิ่มสูงขึ้น อาทิเช่น การค้าผ่านเว็บ ระบบจัดการข่าวสาร ระบบจัดเก็บข้อมูล และระบบคลัสเตอร์เซิร์ฟเวอร์ เป็นต้น
บาร์เรตต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นวัตกรรมสามารถเกิดขึ้นได้หลายระดับ เราจะยังคงพัฒนานวัตกรรมระดับทรานซิสเตอร์และชิปแต่ละตัวต่อไป อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของเราในปัจจุบัน คือ การทำงานร่วมกับนักพัฒนา นักออกแบบซอฟต์แวร์ วิศวกรระบบ ผู้ให้บริการ และฝ่ายอื่นๆ เพื่อสร้างนวัตกรรมในระดับแพลตฟอร์ม"
บาร์เรตต์ กล่าวต่อไปว่า "อย่างไรก็ตาม การนำนวัตกรรมไปใช้งานได้อย่างกว้างขวางนั้น
เราจำเป็นต้องวางรากฐานให้ครอบคลุมเกินกว่าขอบเขตของงานวิจัยและพัฒนาภายในบริษัท ด้วยเหตุนี้อินเทลจึงได้ทุ่มงบประมาณจำนวนกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีในการสนับสนุนโครงการศึกษาต่างๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและในประเทศอื่นๆ อีกกว่า 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลร่างกฎหมายที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างอุตสาหกรรมของเราให้ก้าวหน้าและเติบโตต่อไปได้"
บาร์เรตต์ ได้กล่าวสรุปว่า "นวัตกรรมคือตัวกระตุ้นเศรษฐกิจของโลก การที่บริษัทต่างๆ ใน
อุตสาหกรรมทำงานร่วมกัน การสนับสนุนด้านการศึกษา ตลอดจนความร่วมมือด้านนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล จะช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างนวัตกรรมมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เราสามารถทำใน สิ่งต่างๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด”
รายละเอียดเกี่ยวกับงานไอดีเอฟ
อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรัม (ไอดีเอฟ) เป็นงานแสดงด้านเทคโนโลยีประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งจัดขึ้นสำหรับนักพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะ งานไอดีเอฟ เป็นเวทีที่บริษัทชั้นนำในวงการมารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความ คิดเห็นและข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับพีซี เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์ติดต่อสื่อสาร และอุปกรณ์พกพาต่างๆ ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน ไอดีเอฟ และเทคโนโลยีต่างๆ ของอินเทลได้ที่ http://developer.intel.com
อินเทลเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำในการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ระบบเครือข่าย และอุปกรณ์สื่อสาร ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom
* Intel และ Pentium เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของอินเทล คอร์ปอเรชั่น หรือสำนักงานสาขาทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ขอสงวนสิทธิ์ ชื่อและยี่ห้ออื่นอาจถูกอ้างอิงถึงโดยถือเป็นทรัพย์สินของชื่อยี่ห้อนั้นๆ
ติดต่อ:
คุณเพชราภรณ์ เจริญนิพนธ์วานิช คุณกรรภิรมย์ อึ้งภากรณ์
บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
โทรศัพท์: (66 2) 654-0654 โทรศัพท์: (66 2) 627-3501
e-Mail: petch.charoennibhonvanich@intel.com
e-Mail: kanpirom.ungpakorn@carlbyoir.com.hk--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ