กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--กระทรวงพลังงาน
ก.พลังงาน ขานรับนโยบายนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมนำเทคโนโลยีพลังงานทดแทนในการทดลองช่วยเหลือเกษตรกร ชูโมเดลกลุ่มซุปเปอร์ชาวนาจากศูนย์เรียนรู้ จ.บุรีรัมย์ ที่ใช้โซล่าร์เซลล์สูบน้ำลดต้นทุนผลิต ช่วยทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสานตามทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียง ชี้เตรียมประสาน ธกส. ศึกษาการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำพิเศษต่อยอดการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ช่วยภาคเกษตรกรให้เข้มแข็งต่อเนื่อง
นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการขานรับต่อนโยบายพล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงพลังงานจึงได้มีการจัดประชุมเพื่อนำเสนอการส่งเสริมพลังงานทดแทนสำหรับเกษตรกร ซึ่งมีตัวแทนจากเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มาหารือถึงการใช้ประโยชน์จากพลังงานทดแทน โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ปัจจุบันมีต้นแบบที่บ้านแดงใหญ่ อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการทำเกษตรกรแบบครบวงจร และได้นำแผงโซล่าร์เซลล์เก่าที่ไม่ใช้งานแล้วจำนวน 8 - 12 แผง เพื่อทำการสูบน้ำบาดาลและนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบเกษตรกรผสมผสาน และเกษตรน้ำหยด เป็นแนวทางการเรียนรู้ให้เกษตรกรที่สนใจสามารถประยุกต์ใช้พลังงานทดแทน ในการบริหารจัดการลดต้นทุนการผลิต และช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน รับทราบว่าได้เกิดการต่อยอดจากศูนย์เรียนรู้ ที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และมีกลุ่มเกษตรกรที่นำเทคโนโลยีสูบน้ำด้วยแสงอาทิตย์ และการใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ไปประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตรดังกล่าว โดยเบื้องต้นมีเกษตรกรที่ใช้เทคโนโลยีนี้แล้วประมาณ 100 รายในเขตภาคอีสาน เกิดการรวมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ซุปเปอร์ชาวนา ซึ่งได้ใช้ประโยชน์จากพลังงานทดแทนมาทำเกษตรกรแบบผสมผสาน เช่น ปลูกผัก ทำไร่มันแบบน้ำหยด เลี้ยงปลาเลี้ยงเป็ดพร้อมทำนาข้าว การเพาะเห็ด การปลูกพืชที่เก็บเกี่ยวได้ทุกเดือน เป็นต้น
“การเริ่มต้นที่จ.บุรีรัมย์ และการรวมตัวของกลุ่มซุปเปอร์ชาวนานี้ ถือเป็นโมเดลที่สอดคล้องกับคำปรารภของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งอยากให้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนได้ใช้ประโยชน์ในภาคเกษตรกรเต็มที่ โดยกระทรวงพลังงานพร้อมจะให้การสนับสนุนให้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ และพร้อมจะส่งเสริมให้เกษตรกรนำเทคโนโลยีพลังงานทดแทน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งพบว่าในหลายพื้นที่มีศักยภาพมาก และกระทรวงพลังงานจะบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธกส. เพื่อเตรียมการสนับสนุนเกษตรกรในรูปแบบต่างๆต่อไป” นายคุรุจิตกล่าว
นายคุรุจิต กล่าวเพิ่มว่า เบื้องต้นสำหรับการสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อสูบน้ำ จากการมานำเสนอของกลุ่มซุปเปอร์ชาวนานั้น กระทรวงพลังงานเตรียมที่จะไปหารือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์หรือ ธกส. เพื่อให้มีกลไกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และกระทรวงพลังงานจะพิจารณาช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อการลงทุนติดตั้งระบบสูบน้ำดังกล่าว รวมถึงจะได้เร่งต่อยอดให้ที่ศูนย์เรียนรู้ บ้านแดง จ.บุรีรัมย์เป็นศูนย์เรียนรู้พลังงานทดแทนแบบครบวงจร เพื่อสร้างความรู้ให้เกษตรกรได้นำพลังงานทดแทนไปใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตรแบบผสมผสานตามทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียงต่อไป