กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--IR PLUS
JMT สบ ช่องตลาดสิน เชื่อไทยมีแวว สดใส ประกาศเปิด บริษัทย่อย “JMT Plus” เดิน หน้าปล่อยสิน เชื่อ 4 กลุ่ม หลัก ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเช่า ซื้อรถยนต์ นาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อเช่าซื้อ “ปิยะ พงษ์อัชฌา” หัวเรือใหญ่ มั่นใจธุรกิจไป ได้สวย เหตุดึงมืออาชีพเสริมทัพ ทั้งได้จุดแข็ง จากฐานธุรกิจ เดิมหนุน เชื่อผลงานจะโดดเด่นใน 3 ปี ข้างหน้า ก่อนดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ขณะที่ “ทาเคฮารุ อุเอมัทซึ” ซีอีโอ ฟันธง ด้วยกลยุทธ์ดอกเบี้ยต่ำ และประสบการณ์ ในธุรกิจสิน เชื่อที่ยาวนาน จะสนับสนุนให้ บริษัทก้าวสู่ เป้าหมายสูงสุด ได้อย่างแน่นอน
นาย ปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้า หน้าที่บริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ผู้ ประกอบธุรกิจ ให้บริการ ติดตาม เร่งรัดหนี้ บริหารหนี้ด้อยคุณภาพระดับแนวหน้าของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดบริษัทย่อยที่ JMT ถือ หุ้นอยู่ 100 % ใน ชื่อ บริษัท เจ เอ็ม ที พลัส จำกัด หรือ JMT Plus เพื่อ รุกธุรกิจสิน เชื่อ เนื่องจากพบว่า เป็นธุรกิจที่ มีแนวโน้มการ เติบโตสูงใน ประเทศไทย ทั้งยังมีโอกาส ประสบความ สำเร็จอย่างมาก จากการสนับสนุน ด้านฐานธุรกิจ เดิมของ บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMARTจะ ต่อยอดให้ JMT Plus ทำ ธุรกิจได้ง่าย และสะดวกรวด เร็วยิ่งขึ้น
ทั้ง นี้ ในช่วงระยะเวลา 1-2 ปี นับจากนี้ ถือเป็นปีแห่งการลงทุนของ JMT Plus และ ปีที่ 3 เป็น ต้นไป จะเป็นปีที่ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น ซึ่งประเมินว่า เมื่อถึงเวลา นั้นผลการ ดำเนินงานของ JMT Plus จะทำ กำไรสูงในระดับ15% ของ กำไรรวมของ JMT และ บริษัทฯ อาจพิจารณานำ JMT Plus เข้า จดทะเบียนใน ตลาดหลัก ทรัพย์ฯ เป็นลำดับต่อไป
“JMT Plus จะ เดินหน้าอย่าง แข็งแกร่ง จากฐานธุรกิจ เดิมของ JMARTผู้ ดำเนินธุรกิจ จำหน่าย โทรศัพท์มือถือ และธุรกิจ ติดตามหนี้สิน หรือซื้อหนี้ใน นาม JMT ที่ สามารถต่อยอด ให้ธุรกิจการ ปล่อยสินเชื่อ ของ JMT Plus โต อย่างรวดเร็ว และยั่งยืน ซึ่งหลังจากการลงทุน 1-2 ปี ผ่านไป ปีที่ 3 จะ เป็นปีที่เห็น ผลงานงอกเงย เติบโตอย่าง ชัดเจน และเราอาจพิจารณานำ JMT Plus เข้า ตลาดหุ้นใน ลำดับต่อไป” นายปิยะ กล่าว
นาย ทาเคฮารุ อุเอมัทซึ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที พลัส จำกัด เปิดเผยว่า JMT Plus วาง แผนให้บริการ สินเชื่อ 4 กลุ่ม หลัก ได้แก่ 1.สิน เชื่อส่วนบุคคล, 2.สิน เชื่อเช่าซื้อ รถยนต์, 3.นาโน ไฟแนนซ์ (Nano Finance) และ4.สิน เชื่อเช่าซื้อ
โดย กลยุทธ์หลักที่ จะนำมาใช้ คือ กลยุทธ์ด้าน ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งทาง JMT Plus ยืน ยันว่าลูกค้า ที่ใช้บริการ สินเชื่อจะได้ รับอัตรา ดอกเบี้ยที่ต่ำ กว่าผู้ให้สิน เชื่อรายอื่นๆ เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต ที่คิดดอกเบี้ย ลูกค้าในอัตรา 20% และ ในปีแรกนี้วาง เป้าหมายว่าสิน เชื่อส่วนบุคคล จะเป็นกลุ่ม หลักที่เติบโต สูงสุด โดยคาดว่าจะ ปล่อยสินเชื่อ กลุ่มนี้ ในวงเงินรวมประมาณ200 ล้าน บาท ขณะที่กลุ่มสิน เชื่อเช่าซื้อ รถยนต์จะโดด เด่นในปี 2559 เนื่อง จากรถยนต์มือ สองราคาถูกจะ ออกสู่ตลาดมาก ขึ้น
“จาก ประสบการณ์ที่ อยู่ในตลาดสิน เชื่อมา 25 ปี กับบริษัทยักษ์ ใหญ่ และทำงานทั้งในประเทศญี่ปุ่น, เกาหลี,เวียดนาม, อินโดนีเซีย และไทย ผมจะนำมาพัฒนาและสร้าง JMT Plus ให้ ก้าวสู่เป้า หมายสูงสุดได้ อย่างแน่นอน เรามีกลยุทธ์ เสนอดอกเบี้ย ที่ต่ำกว่าคู่ แข่ง และเน้นการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าเก่าที่มีประวัติที่ดีจาก JMART และ ลูกค้าใหม่ที่ เราจะตรวจสอบ ประวัติด้านการ เงินอย่างเข้ม ข้น” นายทาเคฮารุ กล่าว