กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์
คุณแอร์โรว์ กัว หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ SMEs กลุ่มประเทศเกรทเทอร์ ไชน่าและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Facebook (ที่สองจากขวา)
ผลวิจัยล่าสุดจาก TNS เกี่ยวกับ “เส้นทางของการซื้อสินค้าทาง อี-คอมเมิร์ซ”(The eCommerce Path to Purchase Journey) ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยผูกพันกับ Facebook เป็นอย่างมากในการใช้เป็นช่องทางสำหรับซื้อสินค้าออนไลน์ ผลวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า Facebook เป็นตลาดแห่งโลกโซเชียลของผู้บริโภคชาวไทย โดยมากกว่าครึ่งของผู้ร่วมตอบแบบสำรวจซื้อสินค้าหรือบริการจากการพบเห็นบน Facebook
จากการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า Facebook เป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งของผู้ใช้งานอี-คอมเมิร์ซ แซงหน้าช่องทางอื่นๆ ที่ผู้บริโภคใช้ในการเข้าถึงข้อมูลเช่น เครื่องมือค้นหาข้อมูลและการบอกต่อแบบปากต่อปาก โดยFacebook ได้รับการจัดอันดับเป็นช่องทางอันดับหนึ่งของการซื้อสินค้าบนมือถือ (ในทุกๆ ขั้นตอนของการซื้อสินค้า เริ่มจากการค้นพบ การค้นคว้าข้อมูลเพื่อพิจารณา การตัดสินใจ จนกระทั่งการซื้อสินค้า)
“ด้วยจำนวนผู้ใช้งาน Facebook ในประเทศไทยถึง 30 ล้านคนต่อเดือน[1] แสดงให้เห็นถึงโอกาสมหาศาลที่ธุรกิจขนาดย่อมสามารถใช้ Facebook ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจและยอดขาย การตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคชาวไทยได้รับอิทธิพลอย่างสูงจากสิ่งที่พวกเขาพบเห็นใน Facebook รวมถึงคำแนะนำจากคนที่พวกเขาเชื่อถือ และเนื้อหาที่แสดงถึงความสร้างสรรค์และมีพลังในรูปแบบวิดีโอ รวมถึงเครื่องมืออื่นๆ เช่น Product Ads ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถแสดงสินค้าที่หลากหลายให้ลูกค้าสามารถค้นหาบนหน้าข้อมูล (Newsfeed) ของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย เรามองเห็นว่ามีจำนวน SME ในประเทศไทยใช้ Facebook เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางธุรกิจของพวกเขามากขึ้น” แอร์โรว์ กัว หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ SMEs กลุ่มประเทศเกรทเทอร์ ไชน่าและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่ง Facebook กล่าว
ผลสำรวจพบว่า 66 เปอร์เซนต์ของผู้บริโภคซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่และมีการค้นคว้าข้อมูลสินค้าขณะอยู่ในร้านค้าด้วยเช่นกัน โดยสมาร์ทโฟนเป็นตัวเลือกที่นิยมสูงสุดสำหรับใช้ในการค้นหาสินค้าและค้นคว้าข้อมูล ไปจนถึงการชำระเงินซื้อสินค้า
ข้อมูลที่สำคัญจากการสำรวจ ได้แก่
มีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นที่ใช้ Facebook เพื่อค้นหาและค้นคว้าข้อมูลสินค้าและบริการ โดยFacebook เป็นช่องทางการช้อปปิ้งผ่านมือถือที่ได้รับความนิยมที่สุด
Facebook เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายที่สุดจากผู้ใช้งานอี-คอมเมิร์ซ โดย 92 เปอร์เซนต์ของผู้ร่วมตอบแบบสำรวจใช้งานในทุกๆ วัน
โฆษณาเป็นกุญแจสำคัญสำหรับกิจกรรมแบบออฟไลน์ และโฆษณาบน Facebook มีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เกิดการซื้อสินค้าทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์
70 เปอร์เซนต์ของผู้ร่วมตอบแบบสำรวจค้นคว้าข้อมูลออนไลน์ก่อนการซื้อสินค้าหนึ่งชิ้น
โฆษณาบน Facebook เพจของแบรนด์ หรือความคิดเห็นเชิงบวกและแชร์ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนไทยตัดสินใจจองการท่องเที่ยว โดยเป็นเหตุผลสูงสุดของการตัดสินใจใน 42 เปอร์เซนต์ของผู้ร่วมตอบแบบสำรวจ
“คนไทยใช้ Facebook เป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้เราสามารถสร้างแคมเปญการตลาดบน Facebook ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้าและบริการของเราได้ ลูกค้าชาวไทยชอบแสดงความคิดเห็นและถามคำถามผ่าน Facebookเราจึงให้ความสำคัญในการดูแลเพจเพื่อการตอบคำถามที่รวดเร็วและทันท่วงที การโฆษณาผ่าน Facebook ทำให้เราสามารถควบคุมประสิทธิภาพในการเข้าถึงโฆษณาและปรับปรุงแคมเปญของเราให้ดียิ่งขึ้นได้ ซึ่งส่งผลให้เรามีแพลตฟอร์มทางการตลาดที่ยืดหยุ่นได้สูง ช่วยสร้างความผูกพันกับลูกค้าและยังสร้างยอดขายอีกด้วย” คุณเท็ทสึจิ โฮริ Web Planning & Design Manager แห่ง H.I.S. ประเทศไทย กล่าว
“เราเริ่มใช้โฆษณาและเครื่องมือบน Facebook เพื่อช่วยเชื่อมต่อกับลูกค้า ในการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าเนื่องจากเราไม่มีหน้าร้าน Facebook นับเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับธุรกิจ SME ไทย ในการกำหนดจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่สามารถเข้าถึงได้และมีประสิทธิภาพสูง ในฐานะธุรกิจสัญชาติไทยที่เพิ่งเริ่มต้นการดำเนินธุรกิจ เราได้ทดลองหาวิธีที่ดีที่สุดในการสื่อสารและเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านทางออนไลน์อยู่เสมอ ซึ่งสามารถทำได้ผ่านวิธีต่างๆ ที่มีใน Facebook Ad” คุณวิธวินท์ เลิศสาโรจน์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ 425 Degree กล่าวเสริม
การสำรวจ “เส้นทางของการซื้อสินค้าทาง อี-คอมเมิร์ซ” จัดทำขึ้นโดยการสนับสนุนของ Facebook ระหว่างวันที่ 5 – 16 ม.ค. 2558