กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--คอร์แอนด์พีค
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เข้มงวดมาตรการกำกับดูแลการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน โดยมีผลบังคับใช้ 15 มิถุนายน นี้ ผู้นำเข้าต้องขออนุญาตนำเข้าจาก สมอ. อย่างเคร่งครัด ห้ามนำผลิตภัณฑ์เข้ามาก่อนได้รับอนุญาต เพื่อควบคุมการนำเข้าสินค้าที่จำหน่ายในประเทศให้มีคุณภาพและคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าอุตสาหกรรม
นางอรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยมีภารกิจสำคัญด้านการกำกับติดตาม และควบคุมผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ทั้งที่ผลิตในประเทศ และนำเข้า เช่น วัสดุก่อสร้าง เหล็กเส้น ของเล่น และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้นโดยมอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ดำเนินงานด้านการมาตรฐานของประเทศ กำหนดมาตรการกำกับดูแลการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อควบคุมคุณภาพสินค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ก่อนที่จะเปิดเสรีทางการค้าภายหลังการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ปลายปีนี้
นายหทัย อู่ไทย เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่ สมอ. ได้ประกาศมาตรการกำกับดูแลการนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน หรือมาตรฐานบังคับ ซึ่งปัจจุบัน มีจำนวน 100 ผลิตภัณฑ์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2558 เป็นต้นไปนั้นจากการดำเนินงานพบว่า ยังมีผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากที่นำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานบังคับมาจำหน่ายในประเทศก่อนได้รับอนุญาต และนำไปจำหน่ายในท้องตลาดโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก สมอ. ดังนั้น เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้นำเข้าในการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวข้างต้น สมอ. จึงได้จัดการสัมมนาขึ้นในวันนี้ เพื่อชี้แจงนโยบายและมาตรการกำกับดูแลการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานบังคับ รวมถึงรายละเอียดขั้นตอนกระบวนการนำเข้าผลิตภัณฑ์ในกรณีต่างๆ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจและสามารถนำไปปฏิบัติได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของ สมอ. ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
สำหรับขั้นตอนการขออนุญาตยังคงเหมือนเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายและมาตรการการนำเข้าจากแต่ก่อนให้ดำเนินการขอรับใบอนุญาตในภายหลังนำเข้าสินค้าได้ แต่หลังจากที่ สมอ. ออกประกาศดังกล่าวข้างต้น ห้ามผู้นำเข้านำเข้าผลิตภัณฑ์ก่อนได้รับอนุญาตจาก สมอ. เว้นแต่การนำเข้า มาเป็นตัวอย่างเพื่อการอนุญาต โดยต้องแจ้งก่อนการนำเข้าให้ สมอ. ทราบทุกครั้ง ทั้งนี้ ผู้นำเข้าสามารถตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ ขั้นตอน วิธีการ และระยะเวลาดำเนินการ รวมทั้งดาวน์โหลดแบบคำขอต่างๆ ได้ที่ www.tisi.go.th หรือสอบถามได้ที่ โทร. 0 2202 3398, 0 2202 3386 หรือฝากคำถามได้ที่ www.facebook.com/tisiofficial ทั้งนี้ ผู้นำเข้าที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับโดย สมอ. จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้นำเข้าที่ฝ่าฝืนอย่างเคร่งครัด