กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,203.01-1,209.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,200 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM15 อยู่ที่ 19,340 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 90 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,430 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.47 น.ของวันที่ 20/05/15)
แนวโน้มวันที่ 21 พฤษภาคม 2558
ความแข็งแกร่งในภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐเป็นสิ่งที่สวนทางกับความอ่อนแอในภาคการบริโภค,ภาคการผลิต และค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านของสหรัฐในเดือนเมษายนพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีครึ่ง โดยพุ่งขึ้นถึง 20.2% และตัวเลขการอุนญาติก่อสร้างเพิ่มขึ้นเช่นกัน สิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มสดใสหลังจากอยู่ในภาวะซบเซาในไตรมาสแรก ส่งผลให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นก่อนสิ้นปีนี้หรือไม่ หลังจากตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.25% นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 ประเด็นดังกล่าวกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลงและหนุนดอลลาร์สหรัฐให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สกุลเงินยูโรเผชิญกับแรงเทขายยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับทิศทางราคาทองคำหลังจากนายเบนัวต์ เคอร์ สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่า อีซีบีอาจจะเร่งรัดการเข้าซื้อพันธบัตร โดยจะเพิ่มปริมาณซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในช่วงเดือนพฤษภาคม และ มิถุนายน การเร่งอัตราการพิมพ์ธนบัตรเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลในช่วง 2 เดือนข้างหน้าได้เพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นหรือสินทรัพย์มากยิ่งขึ้น ขณะที่อินเดียอาจจะอนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยสามารถฝากทองคำจำนวนขั้นต่ำ 30 กรัมไว้กับธนาคารได้เพื่อแลกกับการจ่ายดอกเบี้ยเพื่อช่วยทำให้ทองคำกลายเป็นเงินหมุนเวียน ซึ่งเป็นมาตรการที่มีจุดประสงค์เพื่อลดการนำเข้าทองคำ ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้แก่นักลงทุนทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายไปลงทุนออกจากตลาดทองคำ วายแอลจีเชื่อว่าการเข้ามาลงทุนในทองคำต้องใช้ความระมัดระวัง และหากสังเกตให้ดีจะพบว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมีรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม ดังนั้นนักลงทุนควรปรับรูปแบบการลงทุนเพื่อให้เหมาะสมกับการแกว่งตัวของราคา โดยเฉพาะนักลงทุนไม่ควรลงทุนมากเกินไป
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยให้แนะนำให้รอการตั้งฐานของราคาทองคำ แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากแนะนำให้รอจังหวะซื้อหากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,200 หรือ 1,193 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน เมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,213 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านได้ให้รอขายทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากราคาที่เหวี่ยงตัวอย่างรุนแรงจะทำให้นักลงทุนที่ลงทุนมากเกินไปหรือไม่มีแผนในการลงทุนที่ชัดเจนจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,200 (19,050บาท) 1,193 (18,940บาท) 1,185 (18,810บาท)
แนวต้าน 1,213 (19,260บาท) 1,222 (19,400บาท) 1,232 (19,560บาท)
GOLD FUTURES (GFM15)
แนวรับ 1,200 (19,220บาท) 1,193 (19,110บาท) 1,185 (18,980บาท)
แนวต้าน 1,213 (19,430บาท) 1,222 (19,570บาท) 1,232 (19,730บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148