กรุงเทพ--17 เม.ย.--ปตท.สผ.
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.เปิดเผยว่า บริษัท ชาริกาลี-ปตท.สผ.อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรตติ้ง คอมปานี หรือ ซีพีโอซี ประสบความสำเร็จอีกครั้งหนึ่งในการเจาะและทดสอบหลุมประเมินผล ตาปี-2 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) โดยองค์กรร่วมไทย-มาเลเซียได้ออกข่าวดังกล่าวอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้
ซีพีโอซีได้ดำเนินการขุดเจาะหลุมประเมินผลตาปี-2 (Tapi-2) บริเวณโครงสร้างตาปี ซึ่งตั้งอยู่ในแปลงบี-17 ของพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2541 โดยเจาะถึงระดับความลึกที่ 2,715 เมตร พบว่ามีอัตราการไหลของก๊าซธรรมชาติในอัตราวันละ 5.4 ล้านลูกบาศก์ฟุต
สำหรับหลุมประเมินผลตาปี-2 อยู่ห่างจากหลุมตาปี-1 ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 6.5 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดสงขลาไปทางทิศตะวันออกประมาณ 245 กิโลเมตร และจากโคตาบารู (Kota Bharu) ประเทศมาเลเซีย ไปทางตะวันออกเฉียบเหนือประมาณ 149 กิโลเมตร นับตั้งแต่ดำเนินการสำรวจในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียเป็นต้นมา ซีพีโอซีประสบผลสำเร็จในการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในแปลงบี-17 รวมทั้งสิ้น 11 หลุม ขณะนี้ ซีพีโอซี กำลังย้ายแท่นขุดเจาะมารีน 500 (Marine 500) ไปเจาะหลุมประเมินผลเจงก้าตะวันตก-1 ในแปลงบี-17 ต่อไป
ซีพีโอซี เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ปตท.สผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของปตท.สผ.และบริษัท เปโตรนาส ชาริกาลี ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในเครือของบริษัท น้ำมันแห่งชาติมาเลเซีย ซีพีโอซีจัดตั้งขึ้นเพื่อรับสิทธิจากองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ดำเนินการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแปลงบี-17 และแปลงซี-19 ของพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียบริเวณอ่าวไทยตอนใต้ โดยแต่ละฝ่ายมีสัดส่วนการร่วมลงทุนร้อยละ 50--จบ--