กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--ธนาคารยูโอบี (ไทย)
เอ็มโอยูนี้จะเอื้อให้ลูกค้าธุรกิจของธนาคารยูโอบี (ไทย) และลูกค้าของอมตะใช้ประโยชน์จากความเข้มแข็งทางธุรกิจของทั้งสองฝ่าย และการแลกเปลี่ยนรายชื่อลูกค้าผ่านเครือข่ายของทั้งสองธุรกิจ
อมตะเป็นบริษัทพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ มีพื้นที่กว่า 30,000 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมที่จังหวัดชลบุรีและระยอง และหนึ่งแห่งในเวียดนาม อมตะมีลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมเช่นยานยนต์ การรักษาพยาบาล อาหารและเครื่องดื่ม
ธนาคารยูโอบีมีเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 484 สาขาและสำนักงานทั่วภูมิภาค ในเอ็มโอยูนี้ธนาคารยูโอบีและอมตะตกลงกันที่จะสร้างคณะทำงานของผู้บริหารระดับสูงในการช่วยธุรกิจทำความเข้าใจและใช้โอกาสในการขยายกิจการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านบริการธนาคารระหว่างประเทศ ได้แก่การให้วงเงินเพื่อการค้า สินเชื่อ และการลงทุน
เอ็มโอยูนี้จะให้โอกาสแก่ธนาคารยูโอบีและอมตะในการปรับปรุงการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ธนาคารยูโอบีเป็นธนาคารเดียวที่มีการจัดตั้งหน่วยงานให้คำปรึกษาการลงทุนโดยตรง 9 แห่งทั่วภูมิภาคเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจตั้งแต่การจัดตั้ง การใช้บริการข้ามประเทศของธนาคารยูโอบีผ่านทางเครือข่ายที่มั่นคงในภูมิภาค
นาย ปีเตอร์ ฟู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารยูโอบีไทย กล่าวว่า ความเข้มแข็งและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเปิดโอกาสการลงทุนในสาธารณูปโภคและการลงทุนในภูมิภาค
“เอ็มโอยูนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะเปลี่ยนแนวโน้มนี้และการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เป็นโอกาสสำหรับธุรกิจในการบรรลุเป้าหมายการขยายกิจการในภูมิภาค” นายฟูกล่าว
ในปี 2556 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รับเงินลงทุนมูลค่า 125,000 ล้านเหรียญสรอ. หรือ 9 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนโดยตรงทั่วโลก เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2546 ในช่วงเวลาเดียวกันเงินลงทุนโดยตรงสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวเป็น 13,000 ล้านเหรียญสรอ.เทียบกับ 5,000 ล้านเหรียญสรอ.ในปี 2546 ประเทศไทยรับการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติมากเป็นอันดับ 3 ภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการฝ่ายการตลาด อมตะ คอร์ปอเรชั่น กล่าว่า “เอ็มโอยูนี้เป็นส่วนสำคัญของแผนงานของอมตะในการสนับสนุนแนวโน้มการค้าข้ามประเทศในภูมิภาค การเพิ่มขึ้นของระดับรายได้ประชากรในภูมิภาคทำให้การบริโภคในภูมิภาคสูงขึ้นตาม อมตะและยูโอบีต้องการรองรับความต้องการทางการเงินที่เพิ่มขึ้นและหลากหลายของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม ในช่วงเวลาที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่สำคัญ”
หน่วยงานให้คำปรึกษาการลงทุนโดยตรงของธนาคารยูโอบี (ไทย)—ความสำเร็จในช่วงเริ่มต้น
นับตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2556 หน่วยงานให้คำปรึกษาการลงทุนโดยตรงของธนาคารยูโอบี (ไทย) ให้บริการลูกค้า 19 รายในภาคการค้า ยานยนต์ การก่อสร้างและการผลิต เพื่อให้ทำธุรกิจกับคู่ค้าและขยายกิจการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลูกค้าเหล่านี้รวมถึง ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) บริษัทค้าปลีกน้ำมันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และ ไทยนากาโน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนไทยและญี่ปุ่นในธุรกิจก่อสร้าง