กรุงเทพ--19 เม.ย.--อินเทล
เว็บไซต์ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของอินเทล : www.intc.com ถ่ายทอดสดการประกาศผลกำไรประจำไตรมาสที่หนึ่งทางเว็บไซต์ในเวลา 05:30 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) ย้อนดูซ้ำได้ภายหลังจากเสร็จสิ้นสรุปการประชุมทางโทรศัพท์เพียงเล็กน้อย
อินเทลสร้างรายได้ประจำไตรมาสแรกรวมมูลค่า 7,100 ล้านเหรียญสหรัฐรายได้ต่อหุ้นคิดเป็น 0.57 เหรียญ (สอดคล้องกับการแตกหุ้นจากหุ้นเดียวให้กลายเป็นสองหุ้น)
จำนวนหุ้นและรายได้ต่อหุ้นในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ได้รับการปรับให้สอดคล้องกับการแตกหุ้นเดียวให้กลายเป็นสองหุ้น ซึ่งได้จัดสรรแก่ให้ผู้ถือหุ้นในวันที่ 11 เมษายน 2542 ตามบัญชีรายนามผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 23 มีนาคม 2542 แล้ว
อินเทล คอร์ปอเรชั่น ประกาศรายได้ประจำไตรมาสแรกของปี ซึ่งมีมูลค่ารวม 7,100 ล้านเหรียญ และมีกำไรต่อหุ้น 2,000 ล้านเหรียญ หรือ 0.57 เหรียญต่อหุ้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับให้สอดคล้องกับการแตกหุ้นเดียวให้กลายเป็นสองหุ้น ที่ได้จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2542 ทั้งนี้ ในช่วงต้นไตรมาสที่สองอินเทลได้จัดส่งไมโครโปรเซสเซอร์ในตระกูล P6 ให้แก่ลูกค้าได้ครบ 100 ล้านชิ้น
อินเทลมีรายได้ประจำไตรมาสแรกคิดเป็น 7,100 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากรายได้จำนวน 6,000 ล้านเหรียญในไตรมาสแรกของปี 2541 ขณะเดียวกันลดลงร้อยละ 7 จากรายได้จำนวน 7,600 ล้านเหรียญในไตรมาสที่สี่ของปี 2541กำไรสุทธิในไตรมาสแรกนี้คิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 57 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจำนวน 1,300 ล้านเหรียญในไตรมาสแรกของปี 2541 โดยลดลงร้อยละ 3 จากกำไรสุทธิ 2,100 ล้านเหรียญในไตรมาสที่สี่ของปี 2541
สำหรับกำไรต่อหุ้นประจำไตรมาสแรกนั้นคิดเป็นมูลค่า 0.57 เหรียญ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 58 จากจำนวน 0.36 เหรียญในไตรมาสแรกของปี 2541 และลดลงร้อยละ 3 จากจำนวน 0.59 เหรียญในไตรมาสที่สี่ของปี 2541
จำนวนหุ้นและรายได้ต่อหุ้นในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ได้รับการปรับให้สอดคล้องกับการแตกหุ้นในอัตรา 2:1 ซึ่งได้จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้วในวันที่ 11 เมษายน 2542 ตามบัญชีายนามผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 23 มีนาคม 2542 แล้ว
"อินเทลรู้สึกพอใจกับการเติบโตอย่างสม่ำเสมอในแต่ละปีของผลกำไรที่เกิดจากความพยายามในการควบคุมด้านค่าใช้จ่ายต่างๆ ของเรา สำหรับรายได้ในไตรมาสแรกนี้ ก็เป็นไปตามที่เราได้คาดไว้ คือ ลดลงจากไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว อันเป็นผลสืบเนื่องจากฤดูการขายที่มีกำลังซื้อในตลาดลดลง" ดร. เครก บาร์เรตต์ ประธานและหัวหน้าสำนักบริหารของอินเทล กล่าว "อินเทลเล็งเห็นกำลังซื้อที่จะมีมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ของอินเทลที่ครอบคลุมตลาดทุกกลุ่ม ซึ่งรวมถึงการแนะนำเพนเทียม(tm) ทรี โปรเซสเซอร์ และเพนเทียม(tm) ทรี ซีออน(tm) โปรเซสเซอร์ ตลอดจน อินเทล(tm) เซลเลอรอน(tm) โปรเซสเซอร์ และเพนเทียม ทรี โปรเซสเซอร์ สำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพา ในรุ่นความเร็วที่สูงขึ้น"
ในระหว่างช่วงไตรมาสนี้ บริษัทได้จ่ายเงินปันผลประจำไตรมาสจำนวน 0.02 เหรียญต่อหุ้น (ภายหลังที่แตกหุ้นแล้ว) โดยเงินปันผลดังกล่าวได้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 1 มีนาคม 2542 ตามบัญชีรายนามผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2542 ซึ่งนับเป็นการจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาสที่อินเทลได้ดำเนินการเป็นประจำมานานกว่า 6 ปีแล้ว นอกจากนี้ในระหว่างช่วงไตรมาส คณะกรรมการบริหารยังได้อนุมัติให้เพิ่มการจ่ายเงินปันผลจาก 0.02 เหรียญต่อหุ้น เป็น 0.03 เหรียญต่อหุ้น เนื่องในโอกาสที่การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกของบริษัทที่มีการจ่ายภายหลังจากการแตกหุ้น โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2542 ตามบัญชีรายนามผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2542
ในไตรมาสแรกนี้ บริษัทได้ซื้อหุ้นสามัญกลับคืนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 21 ล้านหุ้นคิดเป็นมูลค่า 1,300 ล้านเหรียญ ตามโครงการซื้อหุ้นคืนที่ดำเนินการอยู่ โดยบริษัทได้ซื้อหุ้นคืนมาแล้วรวมทั้งสิ้น 609.6 ล้านหุ้นในราคา 14,900 ล้านเหรียญ นับตั้งแต่เริ่มโครงการนี้เมื่อปี 2533
ในระหว่างไตรมาสนี้ อินเทล และ เลเวล วัน คอมมิวนิเคชั่นส์ ได้ร่วมกันประกาศถึงการอนุมัติข้อตกลงให้อินเทลเข้าซื้อกิจการของเลเวล วัน ด้วยการแลกเปลี่ยนหุ้นซึ่งมีมูลค่าโดยประมาณ 2,200 ล้านเหรียญ การซื้อขายหุ้นดังกล่าวมีการตรวจสอบตามกฎระเบียบและผ่านการอนุมัติโดยผู้ถือหุ้นของเลเวล วัน และเงื่อนไขปิดอื่นๆ ตามปกติ
สรุปผลการดำเนินธุรกิจประจำไตรมาสแรกของปี 2542
กลุ่มธุรกิจสถาปัตยกรรมอินเทล
** ยอดการจัดส่งไมโครโปรเซสเซอร์ในไตรมาสแรกมีจำนวนลดลง** ยอดการจัดส่งมาเธอร์บอร์ดในไตรมาสแรกมีจำนวนลดลง** ยอดการจัดส่งชิปเซ็ตในไตรมาสแรกมีจำนวนลดลง
กลุ่มขยายธุรกิจคอมพิวเตอร์
** ยอดการจัดส่งโปรเซสเซอร์ชนิดฝังและไมโครคอนโทรลเลอร์ มีจำนวนเพิ่มขึ้น** หน่วยความจำแฟลชที่จัดส่งในไตรมาสแรกมีจำนวนเพิ่มขึ้น
กลุ่มธุรกิจการติดต่อสื่อสารและผลิตภัณฑ์เครือข่าย
** ยอดการจัดส่งอุปกรณ์ต่อเชื่อม และสวิตช์แบบฟาสต์ อีเธอร์เน็ต มีจำนวนลดลง** อัตรากำไรเบื้องต้นเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากความพยายามในการลดต้นทุนผลิตภัณฑ์ที่บริษัทได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง** ค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้ลดลงร้อยละ 3 จากไตรมาสที่สี่ ซึ่งตรงตามที่บริษัทได้ประมาณการณ์ไว้ว่าค่าใช้จ่ายจะต่ำลงจากไตรมาสที่สี่ประมาณร้อยละ 2 ถึง 4 ** อัตราภาษีของไตรมาสแรกคือร้อยละ 33.การดำเนินธุรกิจที่โดดเด่นประจำไตรมาสแรกของปี 2542
กลุ่มธุรกิจสถาปัตยกรรมอินเทล
** ในช่วงไตรมาสแรกนี้ อินเทลได้แนะนำ เพนเทียม ทรี โปรเซสเซอร์ ความเร็ว 450 และ 500 MHz ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ตโดยเฉพาะ เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สำคัญของเพนเทียม ทรี โปรเซสเซอร์ คือ Internet Streaming SIMD Extensions ซึ่งเป็นคำสั่งใหม่ รวม 70 คำสั่ง ที่เพิ่มสมรรถนะการทำงานอันยอดเยี่ยมในการรันแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับภาพ ภาพ 3 มิติ เสียง วิดีโอ และการจดจำคำพูด นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดเผยว่าจะมีการแนะนำเพนเทียม ทรี โปรเซสเซอร์ รุ่นความเร็ว 550 MHz ออกสู่ตลาดในไตรมาสที่สองของปี 2542 อีกด้วย
** ในวันที่ 17 มีนาคม อินเทลได้ประกาศแนะนำผลิตภัณฑ์ในตระกูล เพนเทียม ทรี ซีออน โปรเซสเซอร์ ซึ่งเป็นความก้าวหน้าของผลิตภัณฑ์อินเทลอีกขั้นหนึ่งที่มุ่งพัฒนาเพื่อรองรับโซลูชั่นสำหรับการทำธุรกิจบนอี-คอมเมิร์ซ และคอมพิวเตอร์ระดับสูง โดยในระยะเริ่มแรกนี้อินเทลได้แนะนำผลิตภัณฑ์ในตระกูล เพนเทียม ทรี ซีออน รุ่นความเร็ว 500 MHz ซึ่งมีแคช L2 ขนาดตั้งแต่ 512 KB, 1 MB และ 2 MB สำหรับเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชั่นแบบ สอง, สี่, และแปดทาง (หรือมากกว่า) โดยบริษัทคาดหวังว่าจะเริ่มจัดส่งโปรเซสเซอร์ความเร็ว 550 MHz ซึ่งมีแคช L2 ขนาด 512 KB สำหรับเวิร์กสเตชั่นและเซิร์ฟเวอร์แบบสองทาง ได้ราวต้นเดือนเมษายน
** ในระหว่างช่วงไตรมาสนี้ อินเทลได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ อินเทล เซลเลอรอน โปรเซสเสอร์ ความเร็ว 433 MHz ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นความเร็วสูงสุดสำหรับเครื่องเดสก์ทอประดับพื้นฐานโดยโปรเซสเซอร์ในตระกูลดังกล่าวนี้ อินเทลพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีสมรรถนะการทำงานที่ยอดเยี่ยม
** ในระหว่างไตรมาส อินเทลได้แนะนำโปรเซสเซอร์ตระกูลใหม่ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงแต่มีราคาถูกสำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพา เพนเทียม ทู โปรเซสเซอร์ ความเร็ว 333 และ 366 MHz เป็นเพนเทียม ทู โปรเซสเซอร์ สองรุ่นแรกที่สร้างบนดายซิลิคอน โปรเซสเซอร์ชิ้นเดียว ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น กินไฟน้อยลง และมีขนาดเล็กลง เพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่มีขนาดบางและเบาที่สุด นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวอินเทล เซลเลอรอน โปรเซสเซอร์ ความเร็ว 266 และ 300 MHz ที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นสำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพารุ่นใหม่ที่เน้นราคาถูกอีกด้วย
** ในระหว่างช่วงไตรมาสนี้ อินเทลได้ประกาศตัวชิปเซ็ตรุ่น โปรฟิวชั่น สำหรับเซิร์ฟเวอร์แบบแปดทาง ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบการเชื่อมต่อแม่ข่ายแบบบิลดิ้ง บล็อก (building block) ตามมาตรฐานเดิม ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ระดับสูง เพื่อรองรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน บริษัทคาดว่าชิปเซ็ตรุ่นใหม่นี้จะออกสู่ตลาดได้ในราวไตรมาสที่สองของปี 2542 และเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ชิปเซ็ตรุ่นนี้จะเริ่มออกสู่ตลาดในช่วงต้นไตรมาสที่สาม
กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมสมรรถนะเครื่องคอมพิวเตอร์
** ในระหว่างไตรมาส อินเทลและอนาล็อค ดีไวส์ อิงค์ ได้ประกาศถึงข้อตกลงที่ร่วมกันพัฒนาขึ้นเพื่อออกแบบสถาปัตยกรรมหลักของโปรเซสเซอร์ที่มีสัญญาณในระบบดิจิตอล (Digital Signal processor - PSC) โดยทั้งสองบริษัทจะพัฒนาแนวทางหลักของ DSP ที่มีจุดกำหนดแน่นอน และกินไฟน้อยสำหรับการประมวลผลวิดีโอ ภาพ เสียงและข้อมูลในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ด้านคอมพิวเตอร์การติดต่อสื่อสารที่ฝังอยู่ภายในเครื่อง และจะมีการจัดตั้งกลุ่มทำงานเพื่อออกแบบร่วมกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าผลิตภัณฑ์จะมีการเปิดตัวสู่ตลาดในราวปี 2543
** ในระหว่างไตรมาส อินเทลได้ประกาศตัวชุดชิปสเกล แฟลชเมมโมรี่ Intel Easy BGA เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์กลุ่มต่างๆ ในการใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ติดตั้งถาวรภายในตัวซีพียู อุปกรณ์เสริมการทำงานภายนอก (set top boxes) คอมพิวเตอร์ ณ จุดขาย เครื่องพริ้นเตอร์ เครื่องมือแพทย์ แอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับอากาศยาน ดาวเทียมสื่อสาร (Global Positioning Sattellites - GPS) ระบบแลนชนิดไร้สาย โมเด็มความเร็วสูง หรือ เน็ตเวิร์ก อินเตอร์เฟส การ์ด
** ในระหว่างไตรมาสนี้ อินเทลได้ประกาศตัวโซลูชั่นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ อินเทล เซลเลอรอนโปรเซสเซอร์ ความเร็ว 300 MHz และ 366 MHz สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ระบบสถานีปลายทางข้อมูล และในวงการอุตสาหกรรม
กลุ่มเครือข่ายและการสื่อสาร
** ในระหว่างช่วงไตรมาสนี้ อินเทลได้เข้าซื้อกิจการชีวา คอร์ปอเรชั่น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายสายผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่ายที่สามารถควบคุมได้จากระยะไกล และโซลูชั่นการทำเครือข่ายส่วนบุคคลเสมือนจริง (virtual private networking - VPN) ของอินเทล เพื่อตอบสนองตลาดธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยชีวา คอร์ปอเรชั่น ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น อินเทล เน็ตเวิร์ก ซิสเต็มส์ อิงค์
** ในระหว่างช่วงไตรมาสนี้ อินเทลได้ประกาศตัวโมบายล์ อแดปเตอร์ สองรุ่น ที่มีชื่อว่า CardBus ซึ่งรวมประสิทธิภาพการทำงานอันยอดเยี่ยมของ RealPort Integrated PC Card* กับสมรรถนะของคอนโทรลเลอร์ Intel 82559 Fast Ethernet เข้าด้วยกัน Intel PRO/100 CardBus ll และ Intel PRO/100 LAN+Modem56 CardBus ll เป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดของอแดปเตอร์ในตระกูล 10/100 Fast Ethernet และโซลูชั่นระบบ LAN-on-Motherboard - LOM ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเครือข่าย เพิ่มความสามารถด้านการจัดการ และลดค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการสนับสนุนเครือข่ายให้น้อยลง
** ในระหว่างไตรมาสนี้ อินเทลได้แนะนำ Intel InBusiness(tm) 8-Port 10/100 Switch สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ยังไม่มีการต่อเชื่อมระบบเครือข่าย หรือธุรกิจที่มีแผนขยายเครือข่ายในอนาคต โดยสวิตช์รุ่นนี้สามารถให้โซลูชั่นความเร็วสูง สำหรับการใช้อีเมล์ร่วมกัน เข้าสู่อินเตอร์เน็ตได้มากขึ้น การใช้เครื่องพริ้นเตอร์ แฟ้มข้อมูล และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ร่วมกัน ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดเล็กสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่าย ด้วยการลงทุนที่คุ้มค่า
การลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัท
** ในวันที่ 4 มีนาคม อินเทล คอร์เปอเรชั่น และ เลเวล วัน คอมมิวนิเคชั่นส์ ได้ประกาศถึงการอนุมัติข้อตกลงให้อินเทลเข้าซื้อกิจการของเลเวล วัน ด้วยการแลกเปลี่ยนหุ้นซึ่งมีมูลค่าโดยประมาณรวมทั้งสิ้น 2,200 ล้านเหรียญ ซึ่งจะส่งผลให้เลเวล วัน กลายเป็นกิจการส่วนหนึ่งของอินเทล หุ้นของอินเทลจำนวนรวมประมาณ 37.2 ล้านหุ้น จะถูกออกหุ้นเพื่อให้การรวมกิจการดังกล่าวไม่ต้องเสียภาษี (รวมถึงการแปลงตั๋วเงินชนิดรองที่แปลงสภาพได้ของเลเวล วัน ให้เป็นหุ้นสามัญของเลเวล วัน เมื่อได้รับอนุญาตภายใต้กฎเกณฑ์ที่มีอยู่) การรวมกิจการครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านผลิตภัณฑ์และบริการระบบเครือข่ายที่ล้ำหน้าสำหรับลูกค้า ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีแบนด์วิธกว้างขึ้น และมีคุณสมบัติการทำงานที่สูงขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีซิลิคอน อินทิเกรชั่น
** ในช่วงต้นของไตรมาสแรกนี้ บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด และ อินเทล คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศว่าอินเทลจะลงทุนในบริษัท ซัมซุง ด้วยเงินลงทุนมูลค่า 100 ล้านเหรียญ การลงทุนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของอินเทลในการสนับสนุนการพัฒนาและป้อนผลิตภัณฑ์หน่วยความจำยุคใหม่สู่ตลาด รวมทั้งยังเป็นการช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์เติบโตขึ้น ด้วยการเร่งให้มีการนำ Direct RDRAM ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอินเตอร์เฟสหน่วยความจำความเร็วสูงมาใช้เร็วขึ้นประมวลงานด้านการผลิต
** ในระหว่างไตรมาสนี้ อินเทลได้เริ่มผลิตสินค้าตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 0.18 ไมครอน ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวแรกได้แก่ เพนเทียม ทู โปรเซสเซอร์ สำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพา ซึ่งคาดว่าจะแนะนำออกสู่ตลาดได้ในราวไตรมาสที่สอง นอกจากนี้ บริษัทยังได้วางแผนที่จะผลิตและวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในตระกูล เพนเทียม ทรี โปรเซสเซอร์ ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีแบบ 0.18 ไมครอน ออกสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังด้วย
ข้อมูลทางด้านการเงิน
หมวดการทบทวนผลประกอบการทางด้านการเงินจัดทำในรูปของตารางต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ด้านหลังข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมด้วยข้อมูลเกี่ยวกับงบกำไรขาดทุนและงบดุลได้จากที่อยู่เว็บไซต์ www.intc.com โดยข้อมูลจะอยู่ในรูปของสเปรดชีต ซึ่งสามารถดาวน์โหลดเรียกไปดูได้
สำเนาของข่าวผลกำไรและรายงานประจำปีของอินเทลสามารถหาได้จากอินเตอร์เน็ตตามที่อยู่ www.intc.com หรือโทรศัพท์ติดต่อไปที่ธนาคาร แฮริส ทรัสต์แอนด์เซฟวิ่งส์ แบงค์ ซึ่งเป็นตัวแทนของอินเทล ได้ที่หมายเลข (800) 298-0146
ติดต่อ: คุณเพชราภรณ์ เจริญนิพนธ์วานิช กรรภิรมย์ อึ้งภากรณ์
อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) เพรสโก้ แชนด์วิค (ประเทศไทย)
(66 2) 654-0654 (66 2 ) 273-8800
petch.charoennibhonvanich@intel.com kanpirom@shandwick.th.com-- จบ--