กรุงเทพ--18 ธ.ค.--บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์
จากปัญหาโดยรวมของภาคเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะสถาบันการเงิน ซึ่งมีหน้าที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในปริมาณที่สูง และความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาสถาบันการเงินสู่ความเป็นมาตรฐานสากล ดังที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการประกาศมาตรการต่างๆ เพื่อให้สถาบันการเงินนำไปปฏิบัติ อย่างเป็นระบบมาโดยตลอดนั้น
ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของลูกค้ามาโดยตลอด โดยมีการจัดตั้งคณะทำงาน DRT (DEBT RESTRUCTURNING TEAM) เพื่อดำเนินการแก้ไขหนี้ที่เริ่มมีปัญหาหรือมีปัญหาแล้วโดยเร่งด่วน เพื่อลดปริมาณหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และหนี้จัดชั้นของธนาคาร รวมทั้งป้องกันการเพิ่มขึ้นของการกันสำรองหนี้ตามหลักเกณฑ์ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทยโดยคณะทำงานแบ่งความรับผิดชอบ ตามลักษณะของงานสินเชื่อ ออกเป็นกลุ่มต่างๆ เช่น สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ สินเชื่ออุตสาหกรรม สินเชื่อธุรกิจบริการ สินเชื่อ CORPORATE สินเชื่อสถาบันการเงิน สินเชื่อโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น นอกจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้รายใหญ่แล้ว ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ลูกค้ารายย่อยด้วย และเมื่อเดือนที่ผ่านมาคณะทำงานได้เดินทางไปยังสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีคุณประกิต ประทีปะเสน กรรมการและรองผู้จัดการใหญ่ เป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบการดำเนินการอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้คุณประกิต ประทีปะเสน เปิดเผยว่า
"จากความพยายามของธนาคาร ในการดำเนินการเพื่อปรับโครงสร้างหนี้มาอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้ตัวเลขปริมาณหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจและมีแนวโน้มลดลง จากการดำเนินการอย่างเข้มงวดและเอาจริงเอาจังของธนาคาร ทำให้สามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้ไปได้กว่า 20,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจประเภท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 11 ราย เป็นเงินประมาณ 13,500 ล้านบาท อุตสาหกรรม จำนวน 8 ราย เป็นเงินประมาณ 5,700 ล้านบาท และอื่นๆ อีกประมาณ 800 ล้านบาท เป็นต้น"
ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ตั้งเป้าที่จะดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ภายในสิ้นปีนี้ให้ได้กว่า 54,000 ล้านบาท และจากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ คาดว่า ธนาคารจะสามารถดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายได้--จบ--