กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
4 เยาวชนไทย ซัมซุง – เชลซี ดรีม เดอะ บลูส์ สุดปลื้มลงสนามฟาดแข้งกับทีมเยาวชนเชลซีพร้อมเชียร์บอลถึงขอบสนามแสตมป์ฟอร์ด บริดจ์และกระทบไหล่นักเตะเชลซี ถึงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วสำหรับภารกิจของ 4 ตัวแทนเยาวชนไทย ด.ช.ธรธันย์ ฉิมอ่อง, ด.ช ภูริ โชครัตนประภา , ด.ช.ธนกร สอนชิต และ ด.ช.ปีย์รกา อิทธิโชติกร ที่ได้ร่วมเดินทางไปเข้าฟุตบอลแคมป์ ในแคมเปญ 2015 ซัมซุง – เชลซี ดรีม เดอะ บลูส์ ฟุตบอล แคมป์ (2015 Samsung – Chelsea Dream the Blues Football Camp) ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 8 วัน งานนี้ทำเอา 4 เยาวชนไทยผู้โชคดี เต็มอิ่มด้วยประสบการณ์ อันยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก แมทช์เชลซีปะทะทีมคริสตัล พาเลซ ถึงขอบสนามแสตมป์ฟอร์ด บริดจ์ หรือการเทรนนิ่งฟุตบอลอย่างเข้มข้นที่สนามฝึกซ้อมฟุตบอลคอปแฮม เช่นเดียวกับ ทีมสโมสรฟุตบอลเชลซี และยังได้ลงสนามฟาดแข้งร่วมกันกับทีมฟุตบอลเยาวชนของเชลซีอีกด้วย ปิดท้ายความประทับใจในฟุตบอลแคมป์ครั้งนี้ เมื่อเหล่าซุปเปอร์สตาร์นักเตะดาวดัง อาทิ ปีเตอร์ เช็ก , ฟิลิเป้ หลุยส์ , นาธาน อาเก้ , รูเบน ลอฟตัส ชีค ที่มาเทรนนิ่งฟุตบอลอย่างใกล้ชิดให้กับเยาวชนที่ร่วมแคมเปญ 2015 ซัมซุง – เชลซี ดรีม เดอะ บลูส์ ฟุตบอล แคมป์ ครั้งนี้ รวม 12 คน จาก 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีน และโคลอมเบีย
ศศิธร กู้พัฒนากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เผยว่า “2015 ซัมซุง – เชลซี ดรีม เดอะ บลูส์ ฟุตบอล แคมป์ ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้แก่เยาวชนที่รักและสนใจกีฬาฟุตบอล ได้พัฒนาศักยภาพและสานฝันด้านกีฬาฟุตบอล ซึ่งไม่เพียงเป็นการพัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้น แต่ยังจะเป็นประสบการณ์ที่มีค่าและจะติดตัวพวกเขาไปตลอด กิจกรรมนี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการดีๆ ที่ซัมซุงได้มอบประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่และสร้างแรงบันดาลใจทางกีฬาให้แก่เยาวชน อีกทั้งยังได้ค้นพบศักยภาพในตัวเอง โดยในอนาคตซัมซุงยังคงเดินหน้าสร้างโครงการดีๆเช่นนี้ต่อไป”
ด้าน ยูฟ่า - ด.ช.ธรธันย์ ฉิมอ่อง อายุ 12 ปี ชั้น ม.1 จากโรงเรียนเพลินพัฒนา หนึ่งใน 4 เยาวชนไทยที่เดินทางไปฝึกทักษะฟุตบอลถึงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ใน 2015 ซัมซุง – เชลซี ดรีม เดอะ บลูส์ ฟุตบอล แคมป์ เผยว่า “การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่าสำหรับผมมากครับ เป็นประสบการณ์ที่ผมจะไม่ลืม ซึ่งก่อนเดินทางไปฟุตบอลแคมป์ครั้งนี้ ผมเตรียมตัวในด้านทักษะภาษา โดยเฉพาะศัพท์เทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวกับฟุตบอล ซึ่งพอเข้าแคมป์ ทำให้สามารถเข้าใจการสอนของโค้ชมากขึ้น โดยโค้ชได้เทรนในเรื่องของทักษะการเลี้ยงลูกบอล ทั้งการเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ หรือการเลี้ยงลูกแล้วจ่ายบอลให้แก่เพื่อน นอกจากนี้ผมยังได้ลงสนามแข่งกับทีมฟุตบอลเยาวชนจากสโมสรเชลซีด้วย สนุกมากครับ ในเกมการแข่งขันผม ยิงประตูเข้าถึง 3 ลูก และยังได้เจอนักฟุตบอลในดวงใจ รูเบน ลอฟตัส ชีค ที่มาอยู่กับพวกเราครึ่งวัน และสอนเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับฟุตบอล ในทริปนี้ผมยังมีโอกาสได้ชมการแข่งขันฟุตบอลถึงขอบสนาม ทำให้ผมได้เห็นบรรยากาศของ กองเชียร์อังกฤษที่จริงจังกับการแข่งของทีมโปรด ได้เห็นบรรยากาศเฉลิมฉลองเมื่อทีมเชลซีชนะ รู้สึกตื่นเต้นมากครับ และคงไม่มีความรู้สึกนี้หากนั่งดูโทรทัศน์ที่บ้าน ซึ่งการร่วมฟุตบอลแคมป์ทำให้ผมมีกำลังใจที่อยากจะฝึกซ้อมฟุตบอลให้เก่งมากขึ้นครับ เพราะจากการได้ลงสนามเตะกับทีมเยาวชนสโมสรเชลซี ทำให้ผมรู้ว่าทักษะของเขากับของเราไม่ต่างกัน เพียงแค่เขามีพื้นฐานที่ดีกว่า ซึ่งหากเราขยันฝึกซ้อมให้มากขึ้น โอกาสในการเข้ามาเล่นฟุตบอลในลีกอังกฤษจะไม่ใช่เรื่องยากครับ และจากการเตะกับทีมเยาวชนของเขา เป็นความประทับใจที่ผมจะไม่มีวันลืมเลยครับ”
ส่วน น้องกัน-ธนกร สอนชิต อายุ 11 ปี ชั้น ป.5 จากโรงเรียนสายอักษร หนึ่งใน 4 เยาวชนไทยที่เดินทางไปฝึกทักษะฟุตบอลถึงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เผยว่า “ผมประทับใจในทุกๆ กิจกรรมที่ได้ร่วมในฟุตบอลแคมป์ครั้งนี้ครับ เพราะเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ ที่จะได้เจอกับนักฟุตบอลระดับโลกที่เคยได้แต่นั่งดูในโทรทัศน์ หรือได้มาเชียร์ฟุตบอลในสนามถึงอังกฤษ ยิ่งใกล้จะเดินทางผมตื่นเต้นมากครับ จินตนาการว่าสนามฟุตบอลคอปแฮมจะสวยขนาดไหน พอมาถึงก็สวยจริงๆ และแทบไม่อยากเชื่อว่าเราจะได้มาฝึกซ้อมที่นี่ และจากการฝึกฟุตบอลที่อังกฤษผมรู้สึกได้ถึงความแตกต่างกับการฝึกฟุตบอลที่ประเทศไทย ด้วยอากาศที่หนาวของเขา ทำให้เวลาเล่นค่อนข้างเหนื่อยมากกว่าการเล่นในอากาศที่ร้อนแบบบ้านเรา ซึ่งการเดินทางมาร่วมฟุตบอลแคมป์ในครั้งนี้ ไม่เพียงผมจะได้เพื่อนใหม่ ได้ภาษา ผมยังได้ ซึมซับบรรยากาศการเชียร์บอลในสไตล์คนอังกฤษ ยิ่งตอนที่รู้ว่าเชลซีได้ครองแชมป์พรีเมียร์ลีกแน่ๆ เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจดังกึกก้องทั่วสนาม สนุกมากๆ ครับในวันนั้น”
ชิคเก้น - ด.ช.ปีย์รกา อิทธิโชติกร อายุ 10 ปี ชั้น ป.5 จากโรงเรียนเปรมประชาวัฒนา เผยว่า “การจะเดินทางไปอังกฤษ ผมมีเตรียมพร้อมร่างกายโดยเฉพาะทักษะเทคนิคเฉพาะตัว อย่างการเดาะบอล ดึงบอล ซึ่งพอเดินทางไปถึงมันเป็นสิ่งที่โค้ชเน้นฝึกจริงๆ เพียงแต่เพิ่มบางเทคนิคเข้าไป ว่าเราจะทำอย่างไรที่จะดึงบอลมาจากคู่ต่อสู้ให้ได้ และเมื่อดึงบอลมาแล้ว เลี้ยงลูกไป เรามองเห็นช่องที่สามารถทำประตูได้หรือไม่ เชลซีมีสไตล์การเล่นฟุตบอลที่เป็นเฉพาะตัวของเขา อย่างการต่อบอลเพื่อไปทำประตู หรือการสับขาหลอก ผมเห็นและรู้สึกได้ ไม่ว่าจะตอนที่ลงแข่งกับทีมเยาวชนของเขา หรือในวันที่ได้ไปเชียร์ทีมเชลซีในการแข่งขันกับคริสตัล พาเลซ สำหรับวันที่ได้ลงสนามเตะฟุตบอลกับทีมเยาวชน ยอมรับว่าทักษะพื้นฐานของเขาแน่นมาก แต่ทักษะของเราก็ไม่แพ้เขาครับ เพราะตอนแข่งขันกัน เราสามารถทำคะแนน เสมอเขาได้ ทั้งที่เขาตัวใหญ่และแข็งแรงกว่ามาก แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจกับการเดินทางในครั้งนี้ คือการได้ไป ชมการแข่งขันฟุตบอลในสนามแสตมป์ฟอร์ด บริดจ์ ทำให้ผมเห็นบรรยากาศการเชียร์ของผู้ชมที่มากกว่าในโทรทัศน์ อย่างช่วงเวลาที่เชลซีได้คะแนนนำ และเล่นถ่วงเวลา คนดูทั้งสนามเงียบกริบเลยครับ ในขณะที่คนที่ไม่พอใจก็จะโห่ไล่ แต่พอรู้ว่าได้แชมป์แน่นอน โห่ร้อง เป่าเครื่องเป่าของเขาดังกึกก้องทั่วสนาม สนุกและตื่นเต้นมากครับ นอกจากนี้ยังได้เจอกับนักฟุตบอลของทีมเชลซีอีกด้วย ที่มาเทรนนิ่งฟุตบอลให้พวกเรา ทุกคนจะให้กำลังใจพวกเราตลอดครับ เวลาที่พวกเรากำลังฝึกฟุตบอล และยังได้เจอกับนักเตะคนใหม่ที่มาร่วมทีมเชลซี อย่างอิซซัค บราวน์ และ นาธาน อาเก้ ซึ่งหลังจากนี้ผมจะรอชมผลงานการแข่งของเขาครับ”
และน้องโนริ – ด.ช.ภูริ โชครัตนประภา อายุ 9 ปี ชั้น ป.4 จากโรงเรียนบางกอกแอ๊ดเวนต์ เผยว่า “สิ่งที่ผมชอบที่สุดคือการได้ลงสนามเตะฟุตบอลกับทีมเยาวชนสโมสรฟุตบอลเชลซีครับ เพราะสนุก และตื้นเต้นมากครับ เพราะผมอยากรู้ว่าใครจะเก่งกว่ากัน แต่พอเล่นๆ ไป ทำให้ผมรู้เลยว่าทักษะด้านฟุตบอลของเขานั้นเก่งมากๆ ครับ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าต้องฝึกซ้อมให้มากขึ้น การได้มาร่วมฟุตบอลแคมป์ครั้งนี้ ผมได้อะไรกลับมาเยอะมากครับ ทั้งเทคนิคเกี่ยวกับฟุตบอล ภาษา และยังได้เจอกับเพื่อนใหม่อีกครับ”
*** อนึ่ง*** ซัมซุง ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมแคมป์ฟุตบอลชุมชนของสโมสรฟุตบอลเชลซี ตั้งแต่ปี 2007 และได้ร่วมพัฒนาปรับเปลี่ยนให้เป็นแคมป์ฟุตบอลสำหรับเยาวชนทั่วโลก พร้อมนำมาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาดในแนวสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งได้รับการยอมรับจากเยาวชนหลากหลายประเทศ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมแคมป์ฟุตบอลนี้
ในปี 2013 ซัมซุงได้ยกระดับกิจกรรมเป็นแคมเปญระดับโลก ในชื่อ “ดรีม เดอะ บลูส์ (Dream the Blues)” พร้อมมอบประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ โดยมีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่น สนับสนุนให้เยาวชนทั่วโลกได้ค้นพบศักยภาพความสามารถของตัวเองทางด้านกีฬาฟุตบอล และเริ่มต้นสานฝันก้าวไกลในกีฬาฟุตบอล ด้วยการฝึกในแคมป์ฟุตบอลนี้ ร่วมกับทีม โค้ชเยาวชนจากสโมสรฟุตบอลเชลซี และยังได้รับการเทรนนิ่งใกล้ชิดกับเหล่านักฟุตบอลอาชีพชื่อดังของสโมสร อีกทั้งยังได้พบกับเพื่อนๆเยาวชนต่างชาติที่ได้เข้าร่วมในฟุตบอลแคมป์
นับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา แคมเปญ ซัมซุง – เชลซี ดรีม เดอะ บลู แคมเปญ (Samsung - Chelsea Dream the Blues Campaign) ได้เพิ่มทักษะศักยภาพทางด้านกีฬาฟุตบอลให้แก่เยาวชนมาแล้ว 7,300 คนทั่วโลก