กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--IR network
บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ (NCL) เสิร์ฟข่าวดี!!! บอร์ดมองไกล ไฟเขียวตั้งบริษัทย่อย "เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ กัมพูชา" ให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์ เพื่อขยายฐานลูกค้าตามแผนและเพิ่มฐานรายได้ พร้อมมองแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังสดใส จากสัดส่วนการเพิ่มขึ้นของงานโลจิสติกส์ทั้งใน-ต่างประเทศ อีกทั้งได้รับอานิสงส์จากสาขาสิงคโปร์หนุน และการเปิดเส้นทางขนส่งท่าเรือระนองไปย่างกุ้ง “กิตติ พัวถาวรสกุล”มั่นใจทั้งปีรายได้รวม โตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 30 % ประกาศลุยขยายงานทุกภาคส่วน เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (NCL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 3/2558 มีมติให้จัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ กัมพูชา โดยตั้งอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการจัดระบบโลจิสติกส์ (Logislics Provider) ซึ่งถือเป็นการขยายธุรกิจเพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศตามแผนงานที่ได้วางไว้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ กัมพูชา มีทุนจดทะเบียน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 51% ของทุนจดทะเบียน
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2-4/2558 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเติบโตที่มาจากสัดส่วนการเพิ่มขึ้นของงานโลจิสติกส์ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับบริษัทมีแหล่งรายได้เพิ่มเข้ามาทั้งจากการเปิดสาขาของบริษัทที่ประเทศสิงคโปร์ และการเปิดเส้นทางขนส่งทางน้ำแห่งใหม่ที่ท่าเรือระนองไปย่างกุ้ง รวมถึงการจัดตั้งบริษัทย่อยที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการผลักดันธุรกิจของบริษัทให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีแผนเปิดสาขาต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยมีเป้าหมายหลักต้องการให้ธุรกิจของบริษัทเป็นที่รู้จัก มีโอกาสในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่มากขึ้น ที่สำคัญผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
“ที่ผ่านมาบริษัทเดินตามแผนธุรกิจที่ได้วางไว้ทุกประการ โดยเฉพาะการเจาะตลาดใหม่ๆ เพิ่ม เพื่อทำให้โครงสร้างทางธุรกิจรวมถึงผลการดำเนินงานของ NCL เติบโตอย่างมีศักยภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยตลาดใหม่ๆ ที่เข้ามามีส่วนสำคัญในการต่อยอดธุรกิจในปัจจุบันของบริษัทได้ดีเป็นอย่างยิ่ง และทำให้เชื่อมั่นว่าจะมีส่วนสำคัญที่จะผลักดันรายได้ปีนี้สามารถเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 30% ได้ "นายกิตติ กล่าวในที่สุด