กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--อาร์เอส
สร้างความฮือฮาให้กับวงการไปได้ไม่ได้ เมื่อ “ลูกตาล-ชโลมจิต จันทร์เกตุ” ออกมาประกาศเลิกกับสามีชาวฝรั่งแบบจบไม่สวย ล่าสุดทำเอา อึ้ง ทึ่ง เสียว กันทั้งเมือง เมื่อมีภาพหลุดสุดสยิวอยู่บนเตียงหลุดว่อนโลกโซเชียล ร้อนถึง “อ.ยิ่งศักดิ์” จากรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทาง “ช่อง 2” ต้องจับมาคุยแบบถึงพริกถึงขิง
เรื่องเก่ากับอดีตสามียังไม่จบเลย ล่าสุดมาภาพหลุดคาเตียงอีก ?
“จริงๆ แล้วภาพเซลฟี่ที่หลุดออกมา ก็ยอมรับว่าเป็นตัวเองจริงๆ ที่ถ่ายมันมี 2 แบบ อันที่เราลงไปที่ไม่ค่อยโป๊ก็จะลงแฟนแพจ แต่อันที่ค่อนข้างโป๊เราส่งให้เพื่อนดู ถามว่าโป๊มั้ย อันที่จริงก็ไม่เห็นอะไร แต่ท่ามันอาจจะแรง จริงๆ เราถ่ายเพื่อความสนุก ลูกตาลมีแฟนแพจที่แฟนคลับที่ตามอยู่ด้วย เราก็เลยอยากถ่ายให้แฟนคลับเราดู ตอนก่อนนอนกู๊ดไนน์อะไรแบบนี้แหละคะ ตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะเซลฟี่เยอะ แต่หลังๆ มีเซลฟี่เกือบทุกคืน เป็นกู๊ดไนน์จากลูกตาล-ชโลมจิตร”
ทำไมบรรดาคนในแฟนเพสเขาชอบดูรูปแบบนี้กันเหรอ ?
“ มีวันหนึ่งตาลถ่ายรูปเซลฟี่ลงในแฟนแพจ ปรากฏว่าได้รับการต้อนรับ แฟนๆ ก็เข้ามาเยอะ บอกว่าคิดถึงบ้าง ชมบ้าง พอเขาเข้ามาดูก็บอกว่าพี่ลูกตาลถ่ายให้ดูทุกวันได้มั้ย ทั้งกุ๊ดมอนิ่ง ทั้ง กู๊ดไนน์ แค่นั้นเอง”
ถ่ายลงอย่างนี้บ่อยๆ ไม่อายเหรอ ?
“ขอบอกจุดประสงค์ก่อน ตอนแรก คือ ลูกตาลทำหนังสือ เป็นหนังสือถ่ายภาพส่วนตัวนู้ด เราก็พยายามเอารูปจากหนังสือลงไป แต่บางคนเขาไม่ได้เห็นเรานานๆ ก็มีคำถาม เพราะรูปในหนังสือก็เหมือนกันหมดมีการรีทัชบ้าง ก็บอกว่าไม่จริงหรอกมั้ง ตัวจริงคงแก่อายุ 40 กว่าขนาดนี้แล้ว ตาลก็เลยเอากล้องธรรมดานี่แหละ ถ่ายให้เขาดูเลยว่าไม่มีรีทัชนะ เป็นกล้องธรรมดานะ เป็นการอัพเดทตัวเอง”
ถามนิดนึงชีวิตจริงวันๆ ไม่ได้ใส่เสื้อใส่ผ้าเหรอ ?
“จริงๆ ก็ใส่คะ แต่ถ้านอนไม่ใส่คะ ผู้หญิงเราใส่ชุดต่างๆ มันก็รัดมาทั้งวันแล้ว การที่นอนตอนกลางคืนควรจะให้ลมให้โกรกบ้าง ผู้หญิงใส่อะไรที่รัดไว้นานๆ มันก็ไม่ดี อย่างยกทรงใส่รัดทั้งวันมันก็เสี่ยงกับมะเร็ง ก็ต้องปล่อยบ้าง แต่ก็เฉพาะตอนนอนนะ แต่ตอนจะถ่ายเซลฟี่ก็หยิบเสื้อผ้ามาใส่นิดนึง”
จะบอกว่าผู้หญิงเวลานอนเขาไม่ใส่อะไรกันเหรอ ?
“จริงๆ ตอนนอนก็จะใส่ชุดนอนแบบบางๆ ถ้ามีสามีหรือมีแฟนก็อาจจะต้องใส่ชุดนอนที่มันเซ็กซี่ บางๆ แต่ตอนนี้อยู่คนเดียวก็ไม่ค่อยใส่อะไร”กลัวคนจะมองว่าเราเป็นโรคจิตหรือเปล่าๆ วันถ่ายแต่รูปแบบนี้ ?
“จริงๆ แล้วรูปนี้ตาลลงเฉพาะในแฟนแพจเท่านั้นนะคะ คนที่เข้ามาก็คือคนที่ชอบเรา เพราะหนูเขียนไว้เลยว่าถ้าคนที่ไม่ชอบไม่ต้องเข้ามาดู ถามว่าตั้งใจปล่อยรูปเองมั้ย คือ มันมี 2 อย่างที่บอกไป รูปที่เราตั้งใจถ่ายแล้วลงในแฟนแพจ แต่บางรูปที่เยอะไปเราก็ไม่ลง แต่ส่งให้เพื่อนหรือคนสนิทแค่บางคน จนเขาไปส่งต่อๆ กันดู รูปที่ลงไปเพื่อโปรโมทหนังสือเฉยๆ แต่ตัวจริงแล้วเราไม่ได้มาแต่งตัวอะไรแบบนี้ ซึ่งภาพที่หลุดออกไปตาลก็ถามเพื่อนๆ ในกลุ่มแล้วว่าใครเป็นคนส่งต่อ ไม่มีใครรับสักคน”
เราคิดยังไงที่เพื่อนส่งรูปเราต่อไปจนเกิดเป็นกระแส ?
“พอถามไปก็ไม่มีใครรับ เพื่อนบางคนก็บอกว่าดีแล้วไม่ใช่เหรอ เธอชอบโชว์ ขอบอกตรงนี้ว่าการถ่ายมี 2 จุดประสงค์ หรือเราถ่ายเพื่อโปรโมทหนังสือเพื่ออัพเดทชีวิตตัวเราเอง อีกอย่างหนึ่งคือเพื่อนบางคนในกลุ่มอ้วน แล้วไม่ดูแลรักษาร่างกายตัวเอง เราก็ส่งไปเหมือนเตือนเขาให้ออกกำลังกาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อน เหมือนประมาณว่า 40 ก็แซ่บได้อยู่”
เหมือนคนจะมองว่าเราถ่ายให้คนอื่นดูฟรีแบบนี้ตัวเราไม่มีราคา ?
“ไม่นะคะ หลังจากภาพนี้ออกไปมันกลับมีราคาขึ้นมา เพราะว่าหนังสือที่เราทำกลับขายดิบขายดี เพราะคนรู้สึกว่ารูปร่างเรามันยังเหมือนเดิมอยู่นะ คนก็ให้กำลังใจเราด้วย คือคนที่เข้ามาดูเขาก็ต้องแยกแยะออก เพราะตัวจริงของเราก็ไม่ได้มานั่งเซ็กซี่ตลอดเวลา ถามว่าจะมีภาพเหล่านี้ออกมาอีกมั้ย คงไม่มีแล้วคะ”