กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--ฟิลลิป มอร์ริส
ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ดตั้งคำถามเกี่ยวกับแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังความพยายามอย่างต่อเนื่องของเอ็นจีโอบุหรี่ที่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการทางกฎหมาย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เครือข่ายภาคประชาชนกลุ่มหนึ่งได้ไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ดีเอสไอรายงานความคืบหน้าในกรณีคดีศุลกากรเรื่องการนำเข้าผลิตภัณฑ์ของทางบริษัท อย่างไรก็ตาม ในระหว่างยื่นหนังสือ เครือข่ายดังกล่าวกลับมุ่งเน้นไปยังประเด็นอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีแต่กลับเรียกร้องให้รัฐบาลผ่านร่างกฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ซึ่งยังคงเป็นร่างกฎหมายที่เต็มไปด้วยข้อโต้แย้งมากมาย รวมถึงยังถูกตีกลับโดยรัฐบาลเพื่อให้ไปแก้ไขพิจารณาเพิ่มเติมมาแล้วถึงสองครั้ง
นายทรอย ม้อดลิน ผู้อำนวยการฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ของ ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด กล่าวว่า “หากดูจากกรณีคดีความด้านศุลกากรเมื่อปี 2549 ซึ่งได้รับการตรวจสอบจากหลายองค์กรทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ผู้เชี่ยวชาญและมีอำนาจในการตัดสินและแก้ไขปัญหาด้านศุลกากรได้มีคำตัดสินอย่างชัดเจนว่าบริษัทไม่ได้มีการกระทำการใดๆ ที่ไม่ผิดกฎหมาย ฉะนั้น ความพยายามของกลุ่มคนจำนวนหนึ่งในการโจมตีผู้ที่มีความเห็นแตกต่างดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงความต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของผู้กำหนดนโยบายให้มองข้ามปัญหาในเชิงนโยบายของร่างพ.ร.บ. ฉบับนี้”
ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2555 หลายภาคส่วนของสังคมไทยเริ่มสะท้อนข้อกังวลและคัดค้านร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบอันเนื่องจากบทบัญญัติต่างๆ ที่มีความสุดโต่งเกินไป ประชาชนทั้งจากภาคเกษตร สมาคมชาวไร่ยาสูบ ร้านค้าโชห่วย สมาคมผู้ค้าปลีก กลุ่มธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมไปถึงสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจโรงงานยาสูบก็ต่างออกมาแสดงข้อกังวลต่อร่าง พ.ร.บ. นี้ด้วย
“อีกครั้งที่การกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่เอ็นจีโอด้านสาธารณสุขออกมาโจมตีผู้ใดก็ตามที่มีความเห็นขัดแย้งต่อพวกเขาแทนที่จะร่วมกันช่วยหาทางออกที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้นโยบายของประเทศนั้นมีประสิทธิภาพ” นายทรอยกล่าวสรุป