กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--ทีเส็บ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เดินหน้าแผนแม่บทขอนแก่นไมซ์ซิตี้ผ่าน 5 แผนยุทธศาสตร์หลัก มุ่งพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและงานแสดงสินค้า สร้างโอกาสทางธุรกิจในระดับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ขณะที่จังหวัดขอนแก่นจัดงบกว่า 79 ล้านบาท ผ่าน 59 โครงการ เร่งพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจและการลงทุนตามแผนพัฒนา 3 ปี (2557-2559) รองรับการเติบโต
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยในโอกาสพิธีเปิดงานไทยแลนด์ไมซ์มาร์ทครั้งที่ 2 จังหวัดขอนแก่นว่าทีเส็บมีนโยบายขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของจังหวัดขอนแก่นตามแผนแม่บทขอนแก่นไมซ์ซิตี้ (พ.ศ.2557-2561) เพื่อผลักดันให้ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและการแสดงสินค้าที่สร้างโอกาสทางธุรกิจในระดับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยจะเร่งดำเนินการภายใต้ 5 แผนยุทธศาสตร์หลัก คือ 1. ผลักดันให้มีการจัดงานไมซ์ในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง 2. ยกระดับมาตรฐานบริการสู่ระดับสากล 3. สร้างเครือข่ายความร่วมมือในประเทศและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 4. ส่งเสริมและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวก และ 5. สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจไมซ์ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงผ่านการสร้างแบรนด์
“การดำเนินงานดังกล่าว ขณะนี้อยู่ในช่วงแผนระยะที่ 1 (พ.ศ.2557-2558) มุ่งเน้นการสร้างความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในระดับท้องถิ่นและกระตุ้นการจัดงานเตรียมพร้อมเข้าสู่ระยะที่ 2 (พ.ศ.2559-2560) ซึ่งจะขยายกรอบการทำงานเพิ่มความมั่นใจในการเป็นศูนย์กลางไมซ์ส่งเสริมการจัดงานระดับเมกะโปรเจคและความร่วมมือระหว่างประเทศมากขึ้นเพื่อพัฒนาขอนแก่นไปสู่เมืองไมซ์ซิตี้ที่เข้มแข็งและยั่งยืน”
นอกจากนี้ทีเส็บ ยังได้ดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์การพัฒนาตลาดดีไมซ์ภายในประเทศ 4 ด้าน เพื่อส่งเสริมธุรกิจไมซ์ในจังหวัดขอนแก่นได้แก่ กลยุทธ์การเปิดตัวแคมเปญประชุมเมืองไทยภูมิใจช่วยชาติ เน้นการสร้างกิจกรรมดีไมซ์ในจังหวัดขอนแก่นพร้อมขยายศักยภาพเมืองไมซ์ในจังหวัดทางภาคอีสานที่สามารถรองรับการจัดประชุมและแสดงสินค้าในประเทศได้ กลยุทธ์การขยายตลาดการประชุมและแสดงสินค้าในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและกลุ่มประเทศ CLMV ในการผลักดันให้ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางการจัดงานไมซ์ภาคอีสานที่สามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศดังกล่าวได้กลยุทธ์การส่งเสริมการจัดประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในพื้นที่โครงการพระราชดำริและแหล่งท่องเที่ยวเขตทหาร โดยเฉพาะการมุ่งเน้นให้เกิดการจัดประชุมสัมมนาในแหล่งท่องเที่ยวเขตทหารอย่างต่อเนื่อง เช่นการจัดประชุมสัมมนาในอุทยานศูนย์กิจกรรมมณฑลทหารบกที่ 23 อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นและกลยุทธ์การส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้าใน
ประเทศ โดยการสร้างสรรค์งานแสดงสินค้าใหม่ๆให้เกิดขึ้นในจังหวัดขอนแก่นอย่างต่อเนื่องเช่น การจัดงานขอนแก่นอุตสาหกรรมแฟร์ในเดือนกันยายน 2558 การยกระดับรูปแบบมาตรฐานการจัดงานระดับท้องถิ่นให้เป็นระดับภูมิภาคอย่างงานมหกรรมหนังสือภาคอีสานครั้งที่ 3 ในเดือนสิงหาคม 2558 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 110,000 คนและการกระจายงานที่ประสบความสำเร็จไปจัดในจังหวัดขอนแก่นเช่นงาน Food &Hotelex Expo งานมหกรรมอีสานบ้านและคอนโด เป็นต้น
สำหรับสถิตินักเดินทางกลุ่มไมซ์ของจังหวัดขอนแก่นในปี 2557 ที่ผ่านมา มีจำนวน 280,440 คน สร้างรายได้ 730.28 ล้านบาท ขณะที่จำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557-มีนาคม 2558) มีจำนวน 1,585,043 คน คิดเป็นรายได้ 5,659.10 ล้านบาท โดยจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2 ไตรมาสนี้ มาจากกลุ่มผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าจำนวนมากถึง 1,518,825 คน รองลงมาคือ กลุ่มประชุมนานาชาติ 54,966 คน และกลุ่มประชุมองค์กร 11,252 คน
ด้าน นายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่า การดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมไมซ์ของจังหวัดขอนแก่นในปีงบประมาณ 2558 ได้มีการจัดตั้งงบประมาณสนับสนุนโครงการขอนแก่นไมซ์ซิตี้จำนวนกว่า 12 ล้านบาท ในการดำเนินโครงการตามแผนแม่บทที่วางไว้ โดยเฉพาะการดำเนินโครงการศูนย์กลางประชุมนานาชาติและท่องเที่ยวยุคก่อนประวัติศาสตร์ การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ไกด์บุ๊คฉบับภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ กิจกรรมโรดโชว์ในประเทศ การสร้างเครือข่ายไมซ์แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ โครงการ Media Education Trip เชิญสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศสัมผัสประสบการณ์ตรงในจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้นำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การเป็นขอนแก่นไมซ์ซิตี้ โครงการจัดตั้งศูนย์ขอนแก่นไมซ์ซิตี้ ในการเป็นศูนย์ข้อมูลกลางด้านไมซ์ของจังหวัด และการจัดอบรมบุคลากรด้านไมซ์รองรับ AEC เพื่อยกระดับมาตรฐานสู่สากล
พร้อมกันนี้ ยังได้ดำเนินงานที่สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์หลักของทางจังหวัด (พ.ศ. 2557-2560) ภายใต้วิสัยทัศน์ “ขอนแก่นเมืองน่าอยู่ศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้า การลงทุน และการบริการของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง” ซึ่งประกอบด้วย 3 พันธกิจหลัก 1.เสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง คนในชุมนุนมีความเป็นอยู่ด้วยความผาสุก 2. พัฒนาให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน และ 3. พัฒนาให้เป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงซึ่งอุตสาหกรรมไมซ์สามารถเข้ามาเป็นกลไกหนึ่งในการผลักดันขอนแก่นให้พัฒนาสู่การเป็นไมซ์ซิตี้ ศูนย์กลางการจัดประชุมสัมมนาและงานแสดงสินค้าแห่งภาคอีสาน รองรับกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศ กลุ่มอินโดจีน และจีนตอนใต้
ขณะที่ทางเทศบาลนครขอนแก่น ได้มีการวางแผนพัฒนาด้านต่างๆ ตามแผนพัฒนา 3 ปี (พ.ศ.2557-2559) ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์หลักของทางจังหวัดที่วางไว้ ซึ่งหนึ่งในพันธกิจหลักที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์โดยตรง คือ การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ประกอบด้วยการพัฒนาระบบคมนาคมที่มีความเหมาะสมกับสภาพเมือง ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและผังเมือง พัฒนาเศรษฐกิจและเงินทุนเพื่อจัดการด้านโครงสร้าง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจและการลงทุนตลอดจนการศึกษาเรื่องระบบขนส่งมวลชลรถไฟฟ้าบีอาร์ที รวมถึงการจัดสร้างศูนย์แสดงสินค้าแห่งใหม่ที่ได้มาตรฐานระดับสากลในจังหวัดขอนแก่น โดยมีจำนวนโครงการที่จะดำเนินงาน
ทั้งสิ้น 59 โครงการ ภายใต้วงเงินงบประมาณ 78,964,000 บาท อาทิ การจัดการระบบขนส่งมวลชนและการจราจร การเพิ่มผิวจราจร การพัฒนาพื้นที่จัดสรรที่ดินเฉพาะ รวมถึงการพัฒนาและสร้างโอกาสในการใช้แหล่งท่องเที่ยว
อีกทั้ง ยังส่งเสริมและผลักดันให้จังหวัดขอนแก่น เป็นเมืองแห่งเทศกาล หรือ E-vent City โดยนำจุดเด่นของจังหวัดมาผสมผสานกันภายใต้แนวคิด “สืบสานวัฒนธรรมประเพณี เสริมสร้างพื้นที่ทางเศรษฐกิจ” ผ่านแคมเปญ “OK KhonKaen” เพื่อก่อให้เกิดการจดจำจังหวัดขอนแก่น ดึงดูดความสนใจแก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ทั้งชาวไทยและต่างชาติตลอดทั้งปี เช่น งานเทศกาลหนังเมืองแคน งานมหัศจรรย์พรรณไม้นานาชาติขอนแก่น งานขอนแก่นเคาท์ดาวน์ งานขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ งานวันเกษตรภาคอีสานและงานเทศกาลหม่อนไหมนานาชาติเป็นต้น ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้จ่าย และการสร้างรายได้ โดยตั้งเป้าหมายสร้างเม็ดเงินภายในจังหวัด 2,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อให้จังหวัดขอนแก่นเป็นไมซ์ซิตี้ที่มีการจัดงานระดับนานาชาติได้อย่างยั่งยืน
จังหวัดขอนแก่น เป็น 1 ใน 5 เมืองไมซ์ซิตี้หลักของประเทศไทยร่วมกับอีก 4 เมือง คือ กรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา ซึ่งทีเส็บให้ความสำคัญในการสนับสนุนส่งเสริมและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายงานไทยแลนด์ไมซ์มาร์ทครั้งที่ 2 ภายใต้โครงการประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติประจำปี 2558 นี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มุ่งหวังกระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเป้าหมายโดยรวมอุตสาหกรรมไมซ์ภายในประเทศ หรือ D-MICE ปีนี้ ให้เติบโตมากขึ้นทั้งด้านจำนวนคนและรายได้ร้อยละ 5 คิดเป็นนักเดินทางกลุ่มไมซ์จำนวน 15.23 ล้านคน สร้างรายได้ 33,069 ล้านบาท
รายละเอียดการจัดงานไทยแลนด์ไมซ์มาร์ท ครั้งที่ 2 ณ จังหวัดขอนแก่น
สำหรับการจัดการดำเนินงานโครงการ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” ยังมีแผนกระตุ้นการประชุม สัมมนา และงานแสดงสินค้าในประเทศ ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขายไทยแลนด์ไมซ์มาร์ทครั้งที่ 2 กำหนดจัดให้มีขึ้นเป็นจำนวน 5 ครั้ง ณ ไมซ์ซิตี้ทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น และพัทยา ระหว่างเดือนมีนาคม- สิงหาคม 2558
โดยในส่วนของการจัดงานที่จังหวัดขอนแก่นนั้น มีประมาณการผู้เข้าร่วมงานโดยแบ่งเป็นผู้ซื้อ 100 รายจากหน่วยงานรัฐและเอกชน เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ขาย 30 บริษัทจากหน่วยงานผู้ประกอบการไมซ์ในภูมิภาคอีสาน คาดการณ์ผลตอบรับจากการจัดงานไทยแลนด์ไมซ์มาร์ทครั้งที่ 2 ณ จังหวัดขอนแก่น จะก่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังธุรกิจไมซ์ในภูมิภาคทั้งสิ้น 13,250,000 บาท