กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับสองบริษัทเข้าซื้อขายในเดือนกุมภาพันธ์ โดยบมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) ผู้ผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ชั้นนำ เข้าซื้อขายในกลุ่มเทคโนโลยี 17 ก.พ. 48 ด้านบมจ.ค้าเหล็กไทย ผู้ให้บริการเหล็กครบวงจร เตรียมเข้าซื้อขายในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 18 ก.พ.ศกนี้
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาด หลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติรับหลักทรัพย์ของบริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
หลักทรัพย์ของบมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จะเข้าซื้อขายในกลุ่มเทคโนโลยี หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. 48 เป็นต้นไป ใช้ชื่อย่อว่า “SPPT” สำหรับหลักทรัพย์ของบมจ.ค้าเหล็กไทย จะเข้าจดทะเบียนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดวัสดุก่อสร้าง ในวันที่ 18 ก.พ. 48 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “TMT”
บมจ. ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) (SPPT) มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 250 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 200 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในระหว่างวันที่ 7-8 ก.พ.48 บริษัทได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 45,925,000 หุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในราคาหุ้นละ 2.40 บาท สำหรับหุ้นเพิ่มทุนอีก 4,075,000 หุ้นนั้น SPPT ได้เสนอขายแก่พนักงานระดับผู้จัดการในราคา 2.16 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการระดมทุน
ทั้งนี้ ณ ระดับราคา IPO 2.40 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) 7.06 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่า P/E Ratio เฉลี่ยของหุ้นในหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประมาณร้อยละ 17 (P/E Ratio หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 8.53 เท่า)
SPPT ประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ที่มีความเที่ยงตรงสูงให้แก่ผู้ผลิตและประกอบชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ ชั้นนำของโลก ได้แก่ มินีแบ เจวีซี และไซโก้ เป็นต้น โดย SPPT มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเกือบ 120 ล้านบาท ไปขยายกำลังการผลิตจาก 70 เป็น 100 ล้านชิ้นต่อปี และชำระหนี้สถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็น เงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ด้านนโยบายการจ่ายเงินปันผล บริษัทจะจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรหลังหักภาษีและทุนสำรองต่างๆ
ภายหลังการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป SPPT ถือหุ้นใหญ่โดยนายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ในอัตราร้อยละ 32 ของทุนเรียกชำระแล้ว
ด้านบมจ.ค้าเหล็กไทย (TMT) มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 425 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 340 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในวันที่ 3— 4 ก.พ. 2548 ราคาหุ้นละ 5.95 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ ราคาที่ TMT เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นราคาที่ประเมินจากราคาพื้นฐานของกิจการ โดยใช้อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 7.6 เท่า (เปรียบเทียบกับ P/E Ratio เฉลี่ยของหมวดวัสดุก่อสร้างตลอดปี 2547 ที่ 10.79 เท่า)
TMT เป็นผู้ให้บริการเหล็กครบวงจร ทั้งการจัดหาผลิตภัณฑ์เหล็กรูปทรงแบนและรูปทรงยาว ผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก รวมถึงรับจ้างแปรรูปเหล็กที่ลูกค้าจัดหาวัตถุดิบให้ บริการขนส่ง และบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนได้มูลค่า 505.75 ล้านบาท TMT จะนำไปขยายโรงงานที่ จ.อยุธยาเพื่อเพิ่มกำลังการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการแปรรูปได้อีกปีละ 190,000 ตัน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในประเทศ เช่น ผู้ค้าส่ง กิจการในอุตสาหกรรมก่อสร้าง โรงงานผลิตภัณฑ์เหล็กขึ้นรูปเย็น และโรงงานผลิตชิ้นส่วน และอะไหล่รถยนต์เป็นต้น
บมจ. ค้าเหล็กไทย ถือหุ้นใหญ่โดยกลุ่มธรสารสมบัติ ในอัตราร้อยละ 70.80 ของทุนเรียกชำระแล้วหลังการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป และมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ โดยนักลงทุนที่ซื้อหุ้นสามัญผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในครั้งนี้ จะมีสิทธิรับเงินปันผลที่จ่ายจากผลประกอบการของบริษัทในปี 2547 ทั้งปี
ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของบมจ. ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) และบมจ.ค้าเหล็กไทย สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.spp.co.th และ http://www.thaimetaltrade.com/ รวมถึงจากเว็บไซต์ของตลาด หลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th และเว็บไซต์บริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม ที่ www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 /
วรรณมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229 — 2797--จบ--