กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
SET Note ฉบับที่ 5/2558
จัดทำโดย น.ส. พักตร์ธิดา คำทอง
ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาโครงสร้างในตลาดน้ำมันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดยสาเหตุหลักมาจากปริมาณการผลิตน้ำมันจากกลุ่ม Non-OPEC ที่เพิ่มขึ้นมากจากความสำเร็จในการพัฒนาเทคโลยีการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (Shale oil) ของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบออกสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกหรือ OPEC มีบทบาทในการกำหนดราคาน้ำมันโลกลดลง
จากข้อมูลในช่วง 7 ปีย้อนหลัง ในช่วงปี 2551 - 2557 พบว่า แม้ว่าบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันได้รับผลกระทบจากจากการปรับตัวลงอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมัน (Price Shock) แต่พบว่าเมื่อเวลาผ่านไป บริษัทจดทะเบียนกลุ่มนี้มีการปรับตัวและผลประกอบการกลับสู่ระดับใกล้เคียงเดิม
เมื่อพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างการเปลี่ยนแปลงรายวันของราคาน้ำมันดิบดูไบกับการเปลี่ยนแปลงรายวันของดัชนีหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค (Energy and Utilities Sector Index) พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกัน แม้จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อได้รับผลกระทบจาก Oil Price Shock ในปี 2557 แต่หากมองภาพรวมยังคงมีแนวโน้มที่ลดลง โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่ Energy and Utilities Sector Index มีสัดส่วนของบริษัทจดทะเบียนที่หลากหลายมากขึ้น โดยมีบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจอื่นๆ ถูกนำมาคำนวณในดัชนีมากขึ้น เช่น ธุรกิจด้านพลังงานทางเลือกและธุรกิจด้านสาธารณูปโภคต่างๆ เป็นต้น ทำให้บริษัทจดทะเบียนในธุรกิจด้านน้ำมันมีสัดส่วนในโครงสร้าง Energy and Utilities Sector Indexลดลง นอกจากนี้เมื่อพิจารณา Correlation ระหว่างการเปลี่ยนแปลงรายวันของราคาน้ำมันดิบดูไบกับการเปลี่ยนแปลงรายวันของ SET Index พบว่า มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกัน หากแต่มีแนวโน้มที่ลดลงเรื่อยๆ
สำหรับผลกระทบของบริษัทในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค (Energy and Utilities SectorIndex) ต่อการเคลื่อนไหวของ SET Index พบว่ามีแนวโน้มลดลง เนื่องจากสัดส่วนของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคต่อมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด ลดลงจาก 35% ในปี 2551 มาอยู่ที่ 16% ในปี 2557 ทั้งนี้จากการที่ SET Index มีความหลากหลายของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น และอุตสาหกรรมต่างๆ มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นผลกระทบของราคาน้ำมันต่อการเคลื่อนไหวของ SET Index จึงลดลง หากเปรียบเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา
รายละเอียดเพิ่มเติมดังเอกสารแนบ
Disclaimers: รายงานนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนโดยเฉพาะและไม่ได้สะท้อนความเห็นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแต่อย่างใด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และแนวคิดแก่ผู้อ่านเท่านั้น