กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--บลจ.กสิกรไทย
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับต่ำถึงปานกลาง บริษัทจึงได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน รวมถึงลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีกองทุนครบกำหนดอายุและยังต้องการลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันที่ 3 - 8 มิถุนายน 2558 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีเอช (KEFF6MBH) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
นายชัชชัยกล่าวต่อไปว่า “จากการที่อัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมของไทยปรับลดลง 1.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนเมษายน 2558 ออกมาอยู่ที่ระดับ 45.2 โดยปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.4 นอกจากนี้ ธปท.ได้ส่งสัญญาณว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/2558 จะฟื้นตัวอย่างช้าๆ และเปราะบาง พร้อมทั้งยอมรับว่า GDP ของปี 2558 อาจจะออกมาต่ำกว่าระดับ 3.8% จากที่ได้ประเมินไว้ก่อนหน้า โดยธปท.จะมีการปรับลดประมาณการ GDP ใหม่ จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ ทั้งนี้ ในมุมมองของบลจ.กสิกรไทยคาดว่า กนง.น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้มีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องหรืออาจมีการปรับลดลงได้เพิ่มเติม หากตัวเลขเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 ยังออกมาต่ำกว่าที่คาด หรือยังมีการฟื้นตัวที่ไม่ชัดเจน ดังนั้น บลจ.กสิกรไทยแนะนำให้ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก สามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุเวลาอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อเป็นแหล่งพักเงินและรอดูจังหวะการลงทุนเพิ่มเติมได้”
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย
นายชัชชัยกล่าวถึงรายละเอียดของกองทุนต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีเอช (KEFF6MBH) จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี, เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า, ตราสารหนี้ Yapi Kredi Bankasi A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A. และตราสารหนี้ Banco Santander (Brasil) S.A., ประเทศบราซิล โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KEFF6MBH สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com