กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--สตูดิโอ แมงโก้
หลายปีมานี้ สภาวะโลกร้อนและวิกฤติสิ่งแวดล้อมด้านต่างๆ กลายเป็นประเด็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์รวมทั้งสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ หลายคนเชื่อว่าความเสื่อมโทรมและเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์และย้อนกลับมาทำร้ายมนุษย์เอง ดังนั้นถ้าจะแก้ไขให้กลับมาดีดังเดิมก็คงต้องอาศัยแรงกำลังกายใจของทุกคน ร่วมด้วยช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมและลงมือทำจริงจังอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในส่วนความร่วมมือระดับโลก นโยบายระดับชาติ ไปจนถึงชีวิตประจำวันในระดับบุคคลเนื่องในวาระวันสิ่งแวดล้อมโลก World Environment Day 5 มิถุนายน 2558 นี้ พรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน “7 พันล้านฝัน 7 พันล้านใจ คิดห่วงใยในผืนโลก”จัดงานวันสิ่งแวดล้อมโลก รณรงค์ให้ช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยนิทรรศการที่น่าสนใจ และเชิญชวนชาวเชียงใหม่ร่วมปลูกต้นไม้ด้วยกัน ณ บริเวณสวนหน้าศูนย์การค้าในวันที่ 5-7 มิถุนายนนี้
เมื่อ40 ปีที่แล้ว ทั่วโลกเริ่มตื่นตัวและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น กระทั่งหยิบยกมาเป็นประเด็นพูดคุยในเวทีนานาชาติ จนมีมติให้จัดประชุมใหญ่เพื่อให้หลายๆ ประเทศมาร่วมหารือ และเป็นภาคีร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ต่างเผชิญอยู่เป็นครั้งแรก ในวันที่ 5-16 มิถุนายน พ.ศ. 2515ในวาระ "การประชุมสหประชาชาติเรื่องสิ่งแวดล้อมของมนุษย์" หรือ "UN Conference on the Human Environment"ที่กรุงสตอกโฮลม์โดยรัฐบาลของสวีเดนเป็นเจ้าภาพ มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,200 คน จาก 113 ประเทศอีกทั้งยังมีหน่วยงานของรัฐ องค์การสหประชาชาติ และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์อีกกว่า 1,500 คน ซึ่งจากการประชุมครั้งนั้นเกิดข้อตกลงร่วมกันให้รัฐบาลแต่ละประเทศจัดตั้งหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศของตน และจัดตั้งโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP: United Nations Environment Programme) ตั้งสำนักงานใหญ่ที่กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา และประกาศให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก
ในปี 2558 นี้ องค์การสหประชาชาติได้กำหนดคำขวัญวันสิ่งแวดล้อมโลกไว้ว่า“7 billion dreams, One Planet, Consume with Care”หรือที่ใช้รณรงค์กันในประเทศไทยว่า“7 พันล้านฝัน 7 พันล้านใจ คิดห่วงใยในผืนโลก”เน้นประเด็นการบริโภคและการดำเนินการผลิตที่ยั่งยืน(Sustainable Consumption and Production)โดยมีแนวคิดว่ามนุษย์จะต้องใช้ทรัพยากรอย่างฉลาดและระมัดระวัง เพราะเรามีโลกเพียงใบเดียว อีกทั้งเรายังต้องส่งมอบโลกใบนี้ให้กับลูกหลานของเราอีกด้วย จริงอยู่ว่า ผู้คน 7 พันล้านคนบนโลก ทุกคนต่างต้องการทำตามความฝันของตนเอง แต่จะทำอย่างไรให้ทุกคนยังคงสามารถทำตามความปรารถนาของตนได้โดยไม่ต้องรุมทึ้งแย่งชิงทรัพยากรของโลกจนหมดหรือทำลายสิ่งแวดล้อมไปมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ ดังนั้นคำตอบคงไม่ใช่เพียงการใช้ทรัพยากรให้น้อยที่สุด แต่เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างมีสติ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรใช้เท่าไหร่ และรู้ถึงผลกระทบที่จะมีต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม เพราะถ้าทุกคนรู้จักใช้ชีวิต ใช้ทรัพยากรในการผลิตและบริโภคอย่างชาญฉลาดก็จะสามารถรักษาโลกไว้ได้อย่างยั่งยืน
แนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างฉลาดและระมัดระวังที่ทุกคนสามารถทำกันได้ภายในครัวเรือน เช่น 4R เพื่อลดปัญหาขยะ reduce, reuse, repair, recycleทำได้ด้วยวิธีการง่ายๆ ดังต่อไปนี้
Reduce ลดการใช้ โดย เลือกบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เลือกซื้อสินค้าที่เป็นชนิดเติม (Refill) ลดการใช้สิ่งของที่ทำให้เกิดขยะอันตราย เลือกใช้ของที่ไม่เป็นพิษหรือมีพิษตกค้างน้อยกว่า หากใช้ของที่มีพิษหรืออันตราย ก็ให้ใช้เท่าที่จำเป็นและนำไปทิ้งอย่างถูกวิธี โดยไม่ปนกับเศษอาหาร
Reuse การใช้ซ้ำ เลือกใช้สินค้าที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ นำสิ่งของที่ใช้แล้วมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์ให้คุ้มค่าซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะ ลดต้นทุนจัดการขยะ ลดการใช้ทรัพยากร หากจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้งให้ใช้เท่าที่จำเป็น ควรดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านเพื่อยืดอายุการใช้งาน ลงทุนเลือกซื้อสินค้าที่ใช้งานได้นาน เลือกใช้อุปกรณ์ที่จะช่วยประหยัดพลังงาน ใช้ถุงผ้าเพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก ขอยืมหรือเช่าของที่นานๆใช้ที ขายส่งต่อ หรือบริจาคอุปกรณ์ สิ่งของต่างๆ แก่คนที่ต้องการแทนการทิ้ง
Repair การซ่อมแซม ของที่เสียแล้วควรซ่อมแซมเพื่อยืดอายุการใช้งานและนำกลับมาใช้ใหม่
Recycle การนำกลับมาใช้ใหม่ โดย เลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล แยกขยะก่อนทิ้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สะดวกในการจัดเก็บหรือนำขยะที่รีไซเคิลได้ไปขายเพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอีกครั้ง อีกทั้งเศษใบไม้และเศษอาหารยังสามารถนำมาเป็นปุ๋ยธรรมชาติ ช่วยลดการใช้สารเคมีได้อีกด้วย
ในที่นี้.มร.มาร์ค เวอร์มูแลน ผู้อำนวยการศูนย์การค้าพรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้ฝากมาบอกว่า “แม้คำว่าสิ่งแวดล้อมจะดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่ทุกคนก็ช่วยกันดูแลโลกใบนี้ได้คนละไม้ละมือ เริ่มจากรอบตัวเราเอง เช่น ปลูกต้นไม้และดูแลสิ่งต่างๆ รอบบ้าน ลดใช้สารเคมี บริโภคผักปลอดสารพิษซึ่งได้ทั้งสุขภาพดีและส่งเสริมกิจกรรมที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทานน้ำสะอาดให้หมดแก้วและตระหนักว่าน้ำสะอาดและสิ่งต่างๆ ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่มีต้นทุนดังนั้นควรกินใช้ให้คุ้มค่า หมั่นดูแลรักษาเครื่องยนต์เพื่อลดปริมาณการเผาไหม้และการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์สาเหตุโลกร้อน แยกขยะก่อนทิ้งอย่างรู้คิด ทำตามหลัก 4R และตระหนักว่าการนำของที่ใช้แล้วมาผลิตใหม่อาจไม่ใช่ทางแก้ปัญหา แต่การใช้พลาสติกให้น้อยลงเป็นทางออกที่ดีกว่า เป็นต้น”
“นอกจากนี้การรู้ค่าของต้นไม้ และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะ ณ ปัจจุบัน เราต้องช่วยกันปลูกต้นไม้ให้ได้มากกว่าที่มีอยู่ตอนนี้ถึง 5 เท่าจึงจะเพียงพอต่ออนาคต เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกนี้ ทางศูนย์การค้าพรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ จังหวัดเชียงใหม่ จึงอยากเชิญชวนชาวเชียงใหม่ร่วมปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่เมือง โดยในวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน ทางคณะผู้บริหารและพนักงานรวมถึงผู้ประกอบการร้านค้า จะร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้อย่างพร้อมเพรียงกันในบริเวณสวนหน้าศูนย์การค้า ส่วนในวันเสาร์ที่ 6 และอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน ทางศูนย์การค้าก็ขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่และลูกค้าที่สนใจร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ โดยลงทะเบียน ณ บริเวณนิทรรศการวันสิ่งแวดล้อมโลก ลานกิจกรรมชั้น 1 อาคาร Aเพื่อรับต้นไม้และร่วมปลูกด้วยกันที่บริเวณด้านนอกศูนย์การค้าพร้อมรับเสื้อยืดวันสิ่งแวดล้อมโลกฟรี เพื่อระลึกว่าเป็นหนึ่งในวันดีๆ ที่เราได้เป็นหนึ่งใน7 พันล้านคนที่ห่วงใยโลกใบนี้ และมาทำอะไรดีๆ ด้วยกัน”