กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
แอร์บัสได้เปิดตัวโปรแกรมที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินแบบยั่งยืนที่มีชื่อว่า “Sustainable Aviation Engagement Programme” ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เกิดจากความร่วมมือระยะยาวที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อช่วยสายการบินในการลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการนำเสนอการบริการและความชำนาญที่ถูกปรับให้เหมาะสมตามความต้องการ
โปรแกรมดังกล่าว ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก 4 ข้อ (เทคโนโลยีเครื่องบิน การปฏิบัติการเครื่องบิน การจัดการการจราจรทางอากาศ และพลังงานทางด้านการบินที่ยั่งยืน) จะช่วยให้สายการบินต่างๆสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่เต็มเปี่ยมของเครื่องบินที่มีความสามารถในการลดการเผาผลาญพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพรุ่นล่าสุดของบริษัทแอร์บัส ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเผาผลาญพลังงานและเสียงรบกวนในขณะปฏิบัติการบิน โดยบริษัทแอร์บัสจะให้ความร่วมมือกับแต่ละสายการบินตลอดการเริ่มนำการใช้โปรแกรมดังกล่าวมาดำเนินการ
ในขณะนี้ Sustainable Aviation Engagement Programme กำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพัฒนาโครงการนักบิน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่บริษัทแอร์บัสจะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค สายการบิน บริติช แอร์เวย์ และสายการบินเคแอลเอ็ม โดยผลลัพธ์และการเรียนรู้จากโครงการนักบินทั้ง 3 โครงการจะถูกนำมาทดลองใช้บนเครื่องบินก่อนที่โปรแกรมจะถูกแพร่กระจายไปยังผู้ปฏิบัติการทั่วโลกในปี 2559
“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งได้เห็น Sustainable Aviation Engagement Programme ได้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นด้วยความร่วมมือจากสารการบินชั้นนำของโลกอย่าง สายการบินบริติช แอร์เวย์ สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค และสายการบิน เคแอลเอ็ม” มร.ฌอง-ลุค ทอปิแอ็ค หัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อม บริษัทแอร์บัส กล่าว “จากการที่เราได้ทำงานร่วมกับลูกค้าของเราอย่างใกล้ชิดและได้สร้างความร่วมมือในระยะยาว เราได้นำเสนอโซลูชั่นและความชำนาญของเราในรูปแบบที่ถูกปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของสายการบินต่างๆ เพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์ทางด้านสิ่งแวดล้อมของพวกเขา โดยประโยชน์ที่ได้จะปรากฏให้เห็นใน ‘Perfect Flight’ ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ให้ประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ระหว่างการใช้เทคโนโลยีเครื่องบินล่าสุด การปฏิบัติการเครื่องบินที่ดีที่สุด การจัดการการจราจรทางอากาศที่ถูกปรับให้เหมาะสม และเชื้อเพลิงของอุตสาหกรรมทางการบินที่ยั่งยืน จะช่วยให้สายการบินมีศักยภาพอย่างเต็มที่ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง”
มร.โจนาธอน เคาน์เซลล์ หัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมของสายการบิน บริติช แอร์เวย์ กล่าวว่า “พวกเรารู้สึกยินดีกับโอกาสที่ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทแอร์บัสในการทดสอบการเปลี่ยนแปลงก้าวใหม่ในการปฏิบัติการเชิงสิ่งแวดล้อมของเครื่องบินรุ่นถัดไป เพื่อส่งมอบคุณสมบัติในการลดเสียงรบกวนและการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงอย่างมีนัยสำคัญ”
ดร.มาร์ค วัตสัน หัวหน้าฝ่ายกิจการด้านสิ่งแวดล้อมของสายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค แอร์เวย์ จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะสายการบินชั้นนำที่ได้กำหนดเป้าหมายในการจัดการปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างกะตือรือร้นร่วมกับหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ที่เข้าใจถึงความสำคัญของความท้าทายที่จะเกิดขึ้นพร้อมกับการเติบโตในอนาคต ความมุ่งมั่นของเรากับบริษัทแอร์บัสถือเป็นโอกาสสำคัญในการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างศักยภาพที่เทคโนโลยีเครื่องบินสมัยใหม่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งยังรวมถึงการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดเสียงรบกวน โดยการเรียนรู้ที่มาจากโปรแกรมจะช่วยให้เราขับเคลื่อนการพัฒนาในอนาคตภายในธุรกิจของเราและยังช่วยสนับสนุนการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมของอุตสาหกรรมการบินด้วย”
เอลีน แวน เดน ทวีล ผู้จัดการฝ่ายนวัตกรรมสายการบิน เคแอลเอ็ม รอยัล ดัตช์ แอร์ไลน์ กล่าวว่า “สายการบิน เคแอลเอ็ม เป็นสายการบินชั้นนำในการพัฒนาตลาดเชื้อเพลิงชีวภาพ ในปี 2557 สายการบิน เคแอลเอ็ม ได้เปิดตัวชุดเที่ยวบินเชื้อเพลิงชีวภาพสู่อารูบาและโบแนร์ซึ่งมีระยะเวลา 6 เดือน ด้วยการปฏิบัติการเครื่องบินแอร์บัส เอ330-200 เราได้ทำงานร่วมกับบริษัทแอร์บัสอย่างใกล้ชิดตลอดโครงการ เพื่อทำการวิจัยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ระหว่างเที่ยวบินเชื้อเพลิงชีวภาพ โปรแกรมที่ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการบินแบบยั่งยืนของแอร์บัสคือก้าวต่อไปของความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถ
ขยายความร่วมมือของเราไปสู่สาขาอื่นนอกเหนือจากเรื่องเชื้อเพลิงชีวภาพ เมื่อรวมกับสายการบินแอร์ ฟรานซ์ แล้ว สายการบิน เคแอลเอ็ม ได้ถูกจัดอันดับให้เป็นสายการบินที่มีความยั่งยืนที่สุดในดัชนีด้านความยั่งยืน ดาว โจนส์ (Dow Jones Sustainability Index)ติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี และจุดมุ่งหมายของเราคือการรักษาตำแหน่งผู้นำนี้ต่อไป ความร่วมมือกับบริษัทแอร์บัสและหุ้นส่วนอื่นๆในโซ่อุปทานของเรานั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง” บริษัทแอร์บัสได้ทำงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง และนอกจากการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและคุณภาพของอากาศ รวมถึงเสียงรบกวน ผ่านเทคโนโลยีอันทันสมัยและความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เทคโนโลยีใหม่ๆยังคงได้รับการพัฒนาอยู่อย่างสม่ำเสมอ และบริษัทแอร์บัสยังได้ลงทุนด้วยงบประมาณราว 2,000 พันล้านยูโรต่อปีในการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆออกมา ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันให้กับเครื่องบินของเรามากยิ่งขึ้น