กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--เวิรฟ
ซัมซุงเปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน “สมาร์ท มัลติ เอ็กซ์เพรส” พร้อมกัน 6 รุ่น ครั้งแรกของโลกกับเครื่องถ่ายเอกสารระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ใช้งานง่ายเหมือนสมาร์ทโฟน ได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้อย่างสะดวก เป็นอิสระ และรองรับกับความต้องการขององค์กรธุรกิจทุกประเภท สามารถสั่งพิมพ์ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่อจากระยะไกลผ่านระบบซัมซุงคลาวด์พรินต์ ซัมซุงจับมือคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจรุกตลาดเต็มกำลัง พร้อมบริการหลังการขายเต็มรูปแบบเจาะตลาดทุกกลุ่มองค์กร
นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ รองประธานธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ภาพรวมธุรกิจเครื่องถ่ายเอกสารในปัจจุบันถือว่ายังมีศักยภาพในการเติบโตในทิศทางบวก ซึ่งการใช้บริการยังคงเป็นการเช่าเครื่องมากกว่าการซื้อเครื่อง โดยการแข่งขันหลักๆ ในธุรกิจเครื่องถ่ายเอกสารจะเน้นเรื่องคุณภาพ ใช้งานง่าย ราคาเหมาะสม และการให้บริการหลังการขายเป็นหลัก โดยเทรนด์ของผู้บริโภคนั้น จะขยายการใช้งานในเชิงโซลูชันที่ตอบโจทย์ในการทำงานมากขึ้น โดยซัมซุงมีการพัฒนาโซลูชันขึ้นเอง ได้แก่ BCPS (Business Core Printing Solutions) ที่เหมาะสำหรับองค์การขนาดเล็กที่มีจำนวนผู้ใช้งานไม่มากนัก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับธุรกิจองค์กรขนาดย่อม ให้สามารถเลือกใช้โซลูชันได้ตามการใช้งานที่เหมาะสม โดยในปีนี้คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดเครื่องถ่ายเอกสารรวมจะอยู่ที่ 41,000 เครื่อง เติบโตจากปีที่ผ่านมา 7%”
“สำหรับผลิตภัณฑ์เด่นของซัมซุงในปีนี้ คือ เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน “สมาร์ท เอ็กซ์เพรส (Samsung Smart MultiXpress)” ถือเป็นครั้งแรกของโลกกับพรินเตอร์ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเดียวกับสมาร์ทโฟน ที่เตรียมเปิดตัวทั้งสิ้น 6 รุ่น รวมเครื่องถ่ายเอกสารที่วางจำหน่ายอยู่เดิม 6 รุ่น รวมเป็น 12 รุ่น โดยในช่วงครึ่งปีหลังซัมซุงวางแผนแผนที่จะเปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสารในกลุ่มไฮเอนด์เพิ่มขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของทุกกลุ่มธุรกิจ”
ซัมซุง สมาร์ท มัลติเอ็กซ์เพรส” ยังมาพร้อมหน้าจอสไลด์ทัช ขนาด 10 นิ้ว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีเฉพาะในเครื่องถ่ายเอกสารซัมซุงเท่านั้น ช่วยให้ผู้ใช้งานเห็นรายละเอียดคำสั่งชัดเจน ปรับแต่งหน้าจอ เลือก ลด หรือเพิ่มไอคอนที่ใช้บ่อยได้ และเลือกประเภทไอคอนที่แตกต่างกันในผู้ใช้แต่ละคนได้ นอกจากนี้ยังอัพเกรดซีพียู (CPU) เป็นแบบดูอัล คอร์ (Dual Core) ทำให้การประมวลผลรวดเร็วขึ้น สามารถสแกนเอกสารหน้าหลังได้พร้อมกันในครั้งเดียว ความเร็วในการสแกนเอกสารสูงสุดถึง 120 รูปภาพต่อนาที สามารถสั่งพิมพ์ได้โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ทั้งยังสั่งพิมพ์ด้วยสมาร์ทโฟนผ่านเทคโนโลยีเอ็นเอฟซี (NFC) และเชื่อมต่อกับเครื่องได้จากระยะไกลผ่านระบบซัมซุงคลาวด์พรินต์ เพื่อการจัดการเอกสารและการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด รองรับกับความต้องการขององค์กรธุรกิจทุกประเภท โดยเฉพาะองค์กรสมัยใหม่ที่มีการทำงานนอกสถานที่มากขึ้น หรือยึดติดกับการทำงานโดยใช้คอมพิวเตอร์น้อยลง
นายบุญเลิศกล่าวเสริมว่า “กลุ่มเป้าหมายและลูกค้าหลักของซัมซุง คือ กลุ่มลูกค้าที่มองหานวัตกรรมล้ำสมัย รวมถึงการใช้งานที่ง่าย ดีไซน์เครื่องที่สวยงามทำให้ออฟฟิศดูโดดเด่น โดยซัมซุงเน้นการทำตลาดผ่านช่องทางผู้แทนจำหน่ายที่มีทั้งสิ้นกว่า 250 แห่ง ซึ่งจะใช้ฐานคู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจเดิมของซัมซุงที่มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กรอยู่แล้ว รวมถึงการเพิ่มช่องทางใหม่ไปยังผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการเครื่องถ่ายเอกสารโดยเฉพาะ นอกจากนี้ซัมซุงยังเตรียมพร้อมด้านบริการหลังการขายอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กรผ่าน ‘ซัมซุง เซอร์วิส เซ็นเตอร์ (Samsung Service Center)’ โดยจะมีเบอร์ติดต่อพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการ นอกจากนี้ซัมซุงยังได้จัดโร้ดโชว์ ( Road Show) เน้นการใช้งานเครื่องพร้อมโซลูชันและสมาร์ทฟังก์ชันต่างๆ ควบคู่กันไปอีกด้วย”
“ซัมซุงมั่นใจว่าการรุกตลาดของซัมซุงในวันนี้จะเป็นการเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม เครื่องถ่ายเอกสารในเมืองไทยอย่าง พร้อมตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างแน่นอน” นายบุญเลิศกล่าวทิ้งท้าย