กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--สำนักงาน ป.ป.ช.
ในวันนี้ ( ๔ มิถุนายน ๒๕๕๘) นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้แจงว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณากรณีที่มีการกล่าวหา นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และคณะกรรมการกำหนดขอบเขตของงานและราคากลางโครงการจ้างเหมาจัดทำ Line Sticker เพื่อเผยแพร่ค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ ว่ามีพฤติการณ์ทุจริต ในการจัดทำโครงการจ้างเหมาจัดทำ Line Sticker เพื่อเผยแพร่ค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ ไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีกล่าวหาว่ามีการกำหนดราคากลางและการเปิดเผยราคากลางไม่ชอบด้วยระเบียบและมีราคาแพงเกินกว่าความเป็นจริงหรือเกินกว่ามาตรฐานการค้าทั่วไป นั้น พบว่าในการประกาศราคากลางคณะกรรมการกำหนดขอบเขตของงานและราคากลางฯ ได้ดำเนินการสืบราคาการจัดทำไลน์สติกเกอร์จากบริษัท Line Company (ประเทศไทย) จำกัด เพียงรายเดียว โดยได้มีการเปิดเผยราคากลางและระบุแหล่งที่มาของราคากลางถูกต้อง เหตุที่ทำการสืบราคาจากบริษัท Line Company (ประเทศไทย) จำกัด ก็เนื่องจาก บริษัท Line Company (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทเพียงรายเดียวที่ได้รับมอบหมายจากบริษัท Line Company ให้ดำเนินการในประเทศไทยและเป็นเจ้าของแอพพลิเคชั่นไลน์
ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่าราคาในการจัดทำแพงเกินกว่าความเป็นจริงนั้น พบว่าราคากลางที่ทางคณะกรรมการฯ ประกาศ ไม่ได้มีราคาที่สูงเกินไป โดยราคาดังกล่าวเป็นราคาที่ บริษัท Line Company (ประเทศไทย) จำกัด เสนอให้กับลูกค้าโดยตรงและผ่านทางตัวแทน ซึ่งหากมีการจัดจ้างผ่านทางตัวแทนหรือคนกลาง ราคาค่าจัดทำไลน์สติกเกอร์จะมีราคาที่สูงกว่านี้ ดังนั้น จึงเห็นว่ามีการกำหนดราคากลางโครงการจ้างเหมาจัดทำ Line Sticker ดังกล่าว เป็นไปโดยชอบด้วยระเบียบของทางราชการ และไม่แพงเกินกว่าความเป็นจริงหรือเกินกว่ามาตรฐานการค้าทั่วไปแต่อย่างใด
สำหรับกรณีการจัดทำโครงการดังกล่าวโดยวิธีพิเศษ เนื่องจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ ได้รับมอบหมายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้ดำเนินการโครงการเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ และให้ประชาชนสามารถเริ่มดาวน์โหลดสติกเกอร์ได้ ในวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ซึ่งจากระยะเวลาที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการและระยะเวลาที่ต้องแล้วเสร็จนั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ เห็นว่าเป็นระยะเวลาที่กระชั้นชิดและเป็นงานที่ต้องกระทำโดยเร่งด่วน เพื่อให้ทันกันกับระยะเวลาดังกล่าว จึงได้ดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกรณีนี้สำนักงาน ป.ป.ช. ก็ได้หารือไปยังกรมบัญชีกลางว่าสามารถกระทำได้หรือไม่ คณะกรรมการ กวพ. กรมบัญชีกลางมีความเห็นว่าการที่ คสช. มอบหมายให้ดำเนินการโครงการดังกล่าว เป็นเรื่องเร่งด่วน หากล่าช้าอาจจะเสียหายแก่ราชการจึงเป็นดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการที่จะพิจารณาดำเนินการโดยวิธีพิเศษ ตามระเบียบฯ ข้อ 24 (3) ได้ ดังนั้น จึงเห็นว่าโครงการจ้างเหมาจัดทำ Line Sticker สามารถจัดจ้างโดยวิธีพิเศษได้
คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติเห็นควรไม่รับเรื่องดังกล่าวไว้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามข้อ ๑๓ วรรคสอง แห่งระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน พ.ศ. ๒๕๕๔