กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--บิณฑ์ บูม บิสซิเนส
สมกับที่ชาวเน็ตชื่นชมว่าเป็น ฮีโร่ของคนยากไร้... วันคล้ายวันเกิดปีนี้ ท๊อป-บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ร่วมกับทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญู ชวนแฟนคลับ นักฟุตบอลจากทีม ยูเรกา ออสตาร์ นักแสดง อาทิ น้ำขิง - สุธิดา หงษา (เรณู ภ.ปัญญา เรณู),แซกกี้- พงษ์สิทธิ์ นาเวียง (กระเทยเด็ก ภ.ปัญญา เรณู)และทีมนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องใหม่ สิ้นแสงเทียน รวมทั้งหมดกว่า 70 ชีวิต เดินทางไปทำบุญ เพื่อมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนยากไร้ถึง อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร
โดยบรรยากาศในการแจกของเป็นไปอย่างคึกคัก เมื่อทุกคนไปถึงศาลาประชาคม อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ต่างก็รับรู้ได้ถึงความตื่นเต้นของเด็กๆ ที่จะได้รับของแจก ซึ่งเด็กจนๆบางคนอาจไม่มีโอกาสเลยที่จะได้จับของเล่นใหม่ๆ ได้ใส่ชุดนักเรียนใหม่ๆ ได้กินขนม S&P (สนับสนุนจากบริษัท เอสแอนด์พี ซินดิเคท จำกัด มหาชน ) รอยยิ้มเกิดขึ้นตั้งแต่ที่ทุกคนได้รับแจกขนมแล้ว และเมื่อได้รับของแจกทุกอย่างครบถ้วน ต่างก็ตื่นเต้นอีกครั้งกับการลุ้นจับรางวัลรถจักรยาน 22 คัน ปิดท้ายความประทับใจ ที่คาดไม่ถึงเมื่อตัวแทนนักเรียนถือเค้กวันเกิดมาเซอร์ไพรส์ พร้อมช่วยกันร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์อวยพรวันเกิด ลั่นศาลาประชาคม ทำให้ ท๊อป-บิณฑ์ ยิ้มไม่หุบ งานนี้ประทับใจทั้งผู้ให้และผู้รับจริงๆ
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า “ผมเริ่มแจก ทุนการศึกษา ข้าวสาร อาหารแห้ง รองเท้า ชุดนักเรียน อุปกรณ์การศึกษาต่างๆก็ประมาณ 30 ปี ได้แล้ว ปีนี้ที่เลือกจังหวัดพิจิตร เพราะเห็นในโทรทัศน์ว่าแห้งแล้ง ยากไร้ วัตถุประสงค์ที่แท้จริงก็อยากเป็นตัวอย่างให้ทุกคนรู้จักการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับสังคม มันเป็นความประทับใจสำหรับผู้ให้และผู้รับ เห็นได้ว่าในแต่ละปีก็มีผู้ใจบุญร่วมทำบุญเพิ่มขึ้น ในรูปแบบต่างต่างๆกันไป บ้างคนสนับสนุนเงินทุน หรือพาหนะในการนำทีมงานไปแจกของ อย่างปีนี้ก็ได้รับการสนับสนุนน้ำดื่ม ข้าวสาร จากบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด โดย คุณปิติ ภิรมย์ภักดี การแจกของผมก็หวังแค่ว่านักเรียน 700 คน จาก 21 โรงเรียน ที่ได้รับทุนการศึกษาไปครั้งนี้ จะมีเด็กที่รู้จักการให้เพิ่มขึ้นมา 50 คน ผมก็ถือว่าผมประสบความสำเร็จแล้ว (ในความรู้สึกของผม) การไปแจกของผมเห็นทีมงานทุกคนเหนื่อยนะครับ ต้องตื่นกันแต่เช้าออกเดินทางกันตั้งแต่ 6.00 น.เจอกับอากาศร้อน ของที่แจกก็เยอะ ไปถึงยังไม่ทันได้กินข้าวกลางวันกันเลย ผมรู้ว่าทุกคนทั้งหิวและเหนื่อย แต่ใบหน้าของทุกคนมีแต่รอยยิ้มเวลาแจกของให้เด็กๆ บรรยากาศทุกครั้งที่เจอจะอบอุ่น และประทับใจ สำหรับผู้ไปร่วมบุญเสมอ ผมก็ขอขอบคุณทุกๆแรงใจ ทุกๆการสนับสนุนของพ่อ แม่ พี่น้องทุกคน มันคือความภาคภูมิใจนะที่ถูกเรียกว่า “ฮีโร่” คือมันฟังแล้วเท่ห์มาก แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่ใช่ฮีโร่ ผมทำงานแบบนี้กับร่วมกตัญญูมา 28 ปีแล้ว มันทำให้ผมรู้สึกดี อยากทำความดีต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งผมก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำไปจนกว่าจะทำไม่ไหว"